
จับตา 7 ประเด็นเด็ดส่งผลกด-ดันดัชนีวันนี้
จับตา 7 ประเด็นเด็ดส่งผลกด-ดันดัชนีวันนี้
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มิ.ย.) โดยแนะนำข่าว-หุ้นเด่นมีประเด็นดังนี้
1. ผลสำรวจของ ORB เสียง Bremain เพิ่มขึ้นเป็น 53% ชนะเสียง Brexit ที่ 46% ส่วนโพลล์ของ YouGov พบว่า Bremain : Brexit เป็น 44 : 43 ชนะแต่ไม่ขาดลอย ความคลายกังวลของนักลงทุนยังเป็นเพียงระยะสั้น แต่ตลาดหุ้นและตลาดเงินจะยังผันผวนจนกว่าจะรู้ผล (ประมาณ 6am เวลาไทย)
2. คาดกนง.คงดอกเบี้ยพรุ่งนี้ที่ 1.50% (ไม่กระทบตลาด) เพื่อรอประเมินผลของ Brexit ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อขยับขึ้นในอัตราเร่งตามราคาน้ำมันและอาหาร และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในครึ่งปีหลังของปี 59 เพราะฐานราคาน้ำมันที่ต่ำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59
3. ติดตามการประชุมครม.วันนี้ คาดมีการพิจารณาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง และช่วงบางซื่อ-หัวหมาก 3.8 หมื่นล้านบาท สำหรับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ กว่า 9 หมื่นล้านบาท คาดนำเสนอครม. ก.ค.-ส.ค. และเปิดประมูลไตรมาส 4/59
4. เตรียมขายซองประมูลรถไฟฟ้า 3 สายเดือนหน้า รฟม.คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี 7.6 หมื่นล้านบาท เปิดขายซองประมูล 1 ก.ค. ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง จะขายซองประมูลสัปดาห์แรกของ ก.ค. หากมีการประมูล ไม่ได้เป็นผลดีเฉพาะกลุ่มผู้รับเหมา แต่ดีไปถึงธุรกิจปลายน้ำคือวัสดุก่อสร้างทุกประเภท โดยเฉพาะเสาเข็มที่ต้องเสร็จก่อน
5. KBANK และ BBL สินเชื่อเดือน พ.ค. โตเด่น 2.7 % จากเดือนก่อน และ 1.8% จากเดือนก่อน ตามลำดับ ซึ่งเซอร์ไพรส์เรา ทำให้สินเชื่องวด 5 เดือนแรกของปี 59 ของ KBANK +2% จากตั้งปี ส่วน BBL กลับมาเติบโต 1.6% จากต้นปี จากที่ติดลบมาตลอดทั้งปี เป็นสัญญาณว่าการปล่อยสินเชื่อในระยะต่อไปว่าเริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น ราคาหุ้นทั้งคู่ที่ลงมาสะท้อนผลกระทบจาก Promptpay แล้ว BBL มี PBV เพียง 0.8 เท่า แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 190 บาท ส่วน KBANK ราคาพื้นฐาน 194 บาท แนะนำซื้อ
6. BIG ปรับลดคำแนะนำจากซื้อ เป็นเก็งกำไร แม้จะปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.70 บาทจากเดิม 4 บาทจากการปรับกำไรปี 2016-17 ขึ้น 15% และ 11% ทำให้กำไรปีนี้โต 79%จากปีก่อนปีหน้าโต 19%จากปีก่อนแม้การเติบโตจะแรงขึ้นจากการขายกล้องและต่อยอดด้วยการรุกตลาดพิมพ์ภาพ แต่อัตราการเติบโตที่แรงที่สุดน่าจะอยู่ในปีนี้เท่านั้น
7. THCOM ถูกกดดันจากข่าวที่กสทช.และรัฐบาลจะหารือเพื่อดึงดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 กลับสู่ระบบสัมปทานเพื่อให้จ่ายส่วนแบ่งรายได้ 20.5% เช่นเดิมจนถึงปี 2021 (ระบบใบอนุญาตจ่ายค่าธรรมเนียม 5.25%) หรือทำสัญญาใหม่เพื่อให้จ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มและให้ภาครัฐใช้บริการฟรี ในแง่ข้อกฎหมายเราไม่คิดว่าจะทำได้เนื่องจากใบอนุญาตที่ THCOM ได้รับถูกต้องและมาจากกฎหมายพรบ.กสทช. เว้นแต่เพียงว่ารัฐบาลจะใช้ ม.44 กรณีเลวร้ายสุดที่ต้องกลับไปจ่ายส่วนแบ่ง 20.5% จะทำให้กำไรสุทธิลดลงราว 8.5% หรือกรณีให้ภาครัฐใช้ดาวเทียมฟรีซึ่งปัจจุบัน TOT ใช้งาน IPSTAR อยู่ จะกระทบกำไรสุทธิราว 20% เราแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนจากความไม่แน่นอนด้าน Regulation สูงทำให้ประมาณการกำไรมี Downside จากปัจจุบันที่คาดโตเฉลี่ยเพียง 3% จากปีก่อนในช่วง 5 ปีข้างหน้า