Daily Trading Strategy (บ่าย) – บล.ธนชาต

Daily Trading Strategy (บ่าย) - บล.ธนชาต


Risk-off หลังประชามติหนุน “ออก” จากการเป็นสมาชิก EU…”ซื้อ” Asset Funds

ดัชนี SET อยู่ที่ 1,396.81 จุด -39.59 จุด -2.76% ปริมาณซื้อขาย 51,345  ลบ.

แนวรับ : 1,390 / 1,376  แนวต้าน :  1,400 / 1,412

 

สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาด

ประชามติ UK พลิก สนับสนุน “ออก” กดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก: ประชามติ UK หนุน “ออก” จากการเป็นสมาชิก EU กดดันกระแสเงินทุนไหลเข้า Safe Haven อย่างทองคำ, พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ  ล่าสุด Bond Yield 10 ปี ต่ำกว่า 2.0%, สินทรัพย์ในรูปเงินดอลลาร์ฯ – เยน ขณะที่ตลาดหุ้นโลกปรับลดลงแรง 2-4% โดยเฉพาะตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลงแรง 8% จากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นแตะ 100 เยน/ดอลลาร์ฯ ทั้งนี้กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่นักลงทุนต่างชาติถือครองสูง อย่าง PTT SCC KBANK SCB BBL จะถูกกดดันในช่วงนี้ ขณะที่ประเมินแนวรับ SET ระยะสั้น 1,390-1,400 จุด ถัดไป 1,376 จุด

ความเสี่ยงจากค่าเงิน EU อ่อนค่า กระทบส่งออก และธุรกิจท่องเที่ยว: ค่าเงิน GBP และ EUR อ่อนค่าลงรุนแรง 10% และ 4% เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ฯ และคาดว่าจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง กระทบกับกลุ่มหุ้นส่งออก และธุรกิจท่องเที่ยว โดยตรง โดยถ้าดูจากการส่งออกไป UK อาจต่ำเพียง 1.78% แต่ส่งออกไป EU สูง 10% ขณะที่นักท่องเที่ยวจาก UK คิดเป็นประมาณ 3% ของทั้งหมด แต่ถ้าดูจากนักท่องเที่ยว EU คิดเป็น 20% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด จะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มหุ้นส่งออก KCE (รับเป็นเงิน EUR 20%), DELTA (รับเป็นเงิน EUR 12% แต่ส่วนใหญ่เป็น Natural Hedge), CPF (ส่งออกไป Europe 5%) และ TU (ส่งออกไป Europe 30-35%) ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวอย่าง และกลุ่มที่ถูกกดดันจาก Bond Yield ต่ำ อย่าง AOT, MINT, CENTEL, BLA ได้รับผลกระทบเชิงลบเช่นกัน

Bond Yield ต่ำ และโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ลดลง เป็นปัจจัยบวกต่อ Asset Funds: เงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรกดดัน Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ต่ำกว่า 1.50% และคาดว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มหุ้น Beta ต่ำ กระแสเงินสดมีความมั่นคง และผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่าง Asset Funds ทำให้เราแนะนำ “ซื้อ” DIF (ปันผล 7%) JASIF (ปันผล 9.4%) CPNRF (ปันผล 6.4%) และ BTSGIF (ปันผล 5.8%)

 

การปรับลดลงของ Consumption Plays + Infrastructure Play เป็นโอกาส “ซื้อ” :

แม้ Brexit อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก และท่องเที่ยวบ้าง แต่มองผลกระทบ “จำกัด” ขณะที่การบริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศที่ยังดำเนินต่อไป ทำให้มองว่าการปรับลดลงของ CK SEAFCO BEAUTY ROBINS CPN เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” รวมไปถึง “เก็งกำไร” BJC และ CPALL นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” BWG ที่คาดการณ์กำไรเติบโตแกร่งจากธุรกิจโรงไฟฟ้าขยะตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นไป (ดูรายงาน Pathumwan Corner วันนี้ ประกอบ)

Back to top button