ครม.อนุมัติใช้งบ 3.5 หมื่นลบ.ช่วยชาวสวนผลไม้ทประสบภัยแล้งปี 59

ครม.อนุมัติใช้งบ 3.5 หมื่นลบ.ช่วยชาวสวนผลไม้ที่ประสบภัยแล้งในปี 59


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. มีมติอนุมัติโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ที่ประสบภัยแล้งในปี 2559 ใช้งบประมาณช่วยเหลือทั้งสิ้น 35,000 ล้านบาท โดยจะเป็นการช่วยเหลือชาวสวนผลไม้ใน 35 จังหวัด พื้นที่เพาะปลูก 328,500 ไร่ คิดเป็นจำนวนเกษตรกรประมาณ 95,000 ราย แบ่งเป็น เกษตรกรที่ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง 11,600 ราย และเสียหายบางส่วนอีก 83,400 ราย

สำหรับมาตรการที่จะให้ความช่วยเหลือครั้งนี้ ประกอบด้วย 4 มาตรการ

1.การขยายระยะเวลาคืนเงินกู้เดิมออกไปอีก 2 ปี และลดดอกเบี้ยให้ในอัตรา 3% ต่อไป โดยรัฐบาลจะเข้ามาช่วยชดเชยดอกเบี้ยแทนให้แก่เกษตรกรเพื่อให้แก่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงินกู้รายละไม่เกิน 2 แสนบาท เป็นเวลา 2 ปี โดยมาตรการนี้คาดว่าจะใช้วงเงินราว 19,000 ล้านบาท

2.การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อลงทุนสร้างแหล่งน้ำสำรอง และการบริหารจัดการน้ำ โดยจะให้สินเชื่อแก่เกษตรกรรายละ 130,000 บาท ซึ่งธกส.จะคิดดอกเบี้ย MRR-2 และรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้อีก 3% ต่อปี โดยมาตรการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 12,350 ล้านบาท แต่โครงการนี้จะต้องเป็นเกษตรกรที่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนจากทางราชการในเรื่องแหล่งน้ำมาก่อน

3.การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการปลูกใหม่ทดแทนผลไม้เดิมที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยจะให้สินเชื่อแก่เกษตรกรไม่เกินไร่ละ 10,000 บาท รายละไม่เกิน 30 ไร่ โดยจะคิดดอกเบี้ย MRR-2 และรัฐบาลชดเชยให้อีก 3% เป็นเวลา 4 ปี โดยมาตรการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 3,480 ล้านบาท

4.การให้ความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องการผลิตไม้ผลคุณภาพดี และการจัดการระบบโลจิสติกส์ โดยมาตรการนี้คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 85 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทย ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลิ้นจี่ และลำไย ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 3 ล้านไร่ คิดเป็นผลผลิตรวมเกือบ 1.6 ล้านตัน เกิดมูลค่าส่งออกประมาณ 36,600 ล้านบาท แต่ในช่วงที่ผ่านมาประสบปัญหาภัยแล้งจากภาวะเอลนิลโญ่ทำให้มีปริมาณฝนน้อยกว่าปกติ และสภาพอากาศร้อนขึ้น พื้นที่ทางการเกษตรประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ทำให้ผลผลิตไม่สามารถออกสู่ตลาดได้ตามปกติ

Back to top button