สมคิด – กลต. และตลท.ลูบคมตลาดทุน

วานนี้ (3 ต.ค.) ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเดินไปมอบนโยบายที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ก.ล.ต.


ธนะชัย ณ นคร

 

วานนี้ (3 ต.ค.) ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเดินไปมอบนโยบายที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือ ก.ล.ต.

เท่าที่จำได้ ไม่ค่อยมีนะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือคนระดับรองนายกฯ เศรษฐกิจ จะไป ก.ล.ต.

อย่างมากก็ไปตลาดหลักทรัพย์ฯ

และไปครั้งใด ดัชนีหุ้นในวันนั้นก็ร่วงตลอด

เป้าหมายของ ดร.สมคิด ในครั้งนี้มีนัยสำคัญเกี่ยวกับเรื่อง “สตาร์ทอัพ”

คือ ให้ทั้ง ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ไปศึกษา และดำเนินการว่าตลาดทุนจะเข้ามาช่วยธุรกิจสตาร์ทอัพในการระดมทุนได้อย่างไร ซึ่งต่อไปจะเป็นธุรกิจที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

เพราะเกณฑ์ไอพีโอของตลาดหลักทรัพย์ mai ที่กำหนดขึ้นมาใหม่ ไม่เอื้อกับธุรกิจสตาร์ทอัพ

นโยบายสตาร์ทอัพและเกณฑ์ไอพีโอ mai จึงเสมือนขัดแย้งกัน

เกณฑ์ไอพีโอใหม่ของ mai ที่เปลี่ยนแปลงใหม่ เช่น เดิมนั้นใช้มาร์เก็ตแคปในการเข้าตลาดได้

แต่นับจากนี้ไปไม่ได้แล้วหรือสรุปง่ายๆ บริษัทจะต้องมีกำไร

ส่วนทุนจะทะเบียนก็ต้องมากกว่า 50 ล้านบาท และ ฯลฯ

แนวทางของ ดร.สมคิด ต้องการให้ทั้งกระทรวงการคลัง และ ก.ล.ต.ไปศึกษาให้ได้ภายใน 3 เดือน เพื่อตั้งตลาดขึ้นมาใหม่ หรืออาจมีกระดานหุ้นใหม่สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ

จึงให้ ก.ล.ต.ไปวางกฏเกณฑ์ใหม่

เรื่องนี้ดูเหมือนทางคลังก็จะรับลูก และเห็นด้วย

ทว่าหากฟังจากคุณรพี สุจรติกุล เลขาธิการ ก.ล.ต.ก็เหมือนยังแบ่งรับแบ่งสู้

คุณรพี ตอบคำถามค่อนข้างกว้างในประเด็นนี้ ในช่วงเช้าที่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว

ทว่าในช่วงบ่ายหลังการประชุมกับตลาดหลักทรัพย์และหน่วยงานด้านตลาดทุน

คุณรพี บอกเพียงว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่ ดร.สมคิด วางไว้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ให้ไปถามประธานตลาดฯ (ซึ่งน่าจะหมายถึง ดร.ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์)

แต่วานนี้ผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ไม่มีใครออกมาให้สัมภาษณ์ต่อเรื่องนี้

มีเพียง คุณสุรงค์ บูลกุล นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ที่เข้าร่วมประชุม และออกมาระบุว่า ตลท. ยังไม่มีแนวคิดการตั้งกระดานซื้อขายในธุรกิจสตาร์ทอัพในขณะนี้

“ตลท.ได้นำเสนอแนวคิดพี่ช่วยน้อง โดยให้บริษัทขนาดใหญ่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือธุรกิจสตาร์ทอัพ”

ขณะที่คุณสุรงค์บอกความคิดส่วนตัวด้วยครับ

ปัจจุบันธุรกิจเดิมของไทยยังไม่แข็งแรงมากนักที่จะประคองธุรกิจใหม่ดังนั้นต้องทำการรักษาธุรกิจเดิม และสร้างธุรกิจใหม่ไปพร้อมกันด้วย”

ส่วนแหล่งข่าวอีกคนที่เข้าร่วมประชุมและไม่ขอให้เปิดเผยชื่อ บอกแบบนี้ครับ

“ภายในที่ประชุม ตลท. ต้องการนำเสนอช่องทางการเชื่อมต่อให้ธุรกิจสตาร์ทอัพเข้าถึงเงินทุนมากขึ้น โดยจะทำหน้าที่ในลักษณะเป็นตัวกลางคอยช่วยสนับสนุนส่วนแนวคิดการตั้งกระดานซื้อขายใหม่คงทำได้ยากเพราะมีความเสี่ยงสูงมากเกินไป”

สรุปง่ายๆ แนวคิดของ ดร.สมคิด เหมือนถูกขวาง ตั้งแต่ยังไม่เริ่มตั้งไข่

การมาของ ดร.สมคิด จึงมีการมองกันว่านโยบายที่จะให้คนเข้าถึงตลาดทุนได้ง่ายของรัฐบาลนั้น กำลังถูกสัดกั้นจาก ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์หรือไม่

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลัง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ  ก็เหมือนจะมีเรื่องความเห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว

โดยเฉพาะในประเด็นที่คลังต้องการเข้ามาถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์

นัยสำคัญว่าเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ

ขณะที่ทาง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นซักเท่าไหร่

บางเรื่องแม้จะเห็นสอดคล้องกัน

แต่ก็มีหลายเรื่องที่ทั้ง ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ มีความเห็นไม่ตรงกัน

ทั้ง ดร.สมคิด (คลัง),  ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ

เหมือนกำลังมองดาวกันคนละดวง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

                

Back to top button