รอหุ้นบิ๊กแคปลูบคมตลาดทุน

ดัชนีหุ้นไทยยืนแถวระดับ 1,500 จุดได้ก็จริง


ธนะชัย ณ นคร

 

ดัชนีหุ้นไทยยืนแถวระดับ 1,500 จุดได้ก็จริง

ทว่าหุ้นขนาดใหญ่ มาร์เก็ตแคปเยอะๆ หรือบิ๊กแคปกลับไม่ได้วิ่งขึ้นมา

ดัชนีที่ขึ้นมารอบนี้ มาด้วยหุ้นขนาดกลางเป็นหลัก โดยหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากถูกต่างชาติทิ้งกระทั่งกดดัชนีลงไปแถวๆ 1,470 จุด

ก่อนจะดีดขึ้นมาที่ 1,500 จุดอีกรอบ

หุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาปรับลงไป ยังไม่ได้กลับมายืนที่เดิม

หุ้นในกลุ่มน้ำมันก็ยังปรับขึ้นๆ ลงๆ ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก

การประชุมของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ หรือโอเปก ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

ยังถูกจับตาครับ

ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาเป็นระยะว่า ประเทศในกลุ่มโอเปก และนอกกลุ่มโอเปกที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก คือ รัสเซีย

ทั้งหมดนี้พร้อมจะให้ความร่วมมือในการปรับลดเพดานการผลิตน้ำมันดิบลงมา

ปัจจุบันกลุ่มโอเปกมีการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยวันละ 33.6  ล้านบาร์เรลต่อวัน

แต่เป้าหมายที่มีการกำหนดกันไว้ ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่

ทั้งหมดต้องการให้เพดานการผลิตน้ำมันลงมาอยู่ที่ระดับ 32.5–33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ล่าสุดมีข่าวว่า ประเทศซาอุดีอาระเบีย จะไม่เข้าประชุมกับกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

นั่นเพราะซาอุฯ ต้องการให้ประเทศในกลุ่มโอเปกตกลงกันเองให้ได้ก่อนว่า แต่ละประเทศพร้อมที่จะปรับลดเพดานการผลิตของตนเองลงมาอย่างไร

และทำให้บรรดานักค้าน้ำมันทั้งหลายเริ่มไม่มีความมั่นใจกับการประชุมวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้

ราคาน้ำมันดิบจึงปรับลงมาอีก

และส่งผลให้หุ้นในกลุ่มน้ำมันปรับลงทันที

ทั้ง PTT และ PTTEP รวมถึงหุ้นไทยออยล์ หรือ TOP

หากสถานการณ์ยังเป็นอยู่อย่างนี้ หุ้นน้ำมันก็คงแกว่งไปแบบนี้ และกดดันตลาดโดยรวมต่อไป

หุ้นกลุ่มธนาคารก็ถูกต่างชาติทิ้งมาโดยตลอด

อย่าง KBANK ราคาในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ฟันด์โฟลว์จะทิ้งหุ้นไทยต่อเนื่องหลายวัน ราคาหุ้นขณะนั้นอยู่แถวๆ 190-195 บาท

ส่วนตอนนี้อยู่ระดับ 170 บาท

หุ้นแบงก์ไทยพาณิชย์ หรือ SCB ราคก็ปรับลงมาจาก 150-155 บาท ลงมาเหลือ 144-145 บาท

แม้จะมีเงินจากกองทุนแอลทีเอฟ ทยอยเข้ามาเก็บหุ้นแบงก์บ้าง

แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันราคากลับขึ้นมาได้

ยังไงก็ต้องรอแรงฟันด์โฟลว์

ส่วนหุ้นในกลุ่มสื่อสาร เช่น ADVANC ราคาหุ้นก็ยังไม่ได้กลับขึ้นไปมากนัก

และเช่นเดียวกับหุ้น INTUCH

หุ้นที่ว่ามาทั้งหมด ต่างมีมาร์เก็ตแคประดับหลายแสนล้านบาท หรือมากเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดหุ้นไทย

ส่วนนักลงทุนรายย่อยในขณะนี้ หลายคนอยู่ในภาวะกล้าๆ กลัวๆ

แม้บางคนจะรู้สึกว่าตัวเองตกขบวนในดัชนีรอบนี้ แต่หากพิจารณาดูจากหุ้นที่ขึ้นมาแล้ว เหมือนกับว่ายังมีความเสี่ยง หรือความไม่แน่ใจว่า ดัชนีจะไปได้ถึงไหน

และฟันด์โฟลว์จะกลับมาเมื่อไหร่ หรือยังขายทิ้งอยู่

แรงซื้อช่วงนี้ หลักๆ ก็น่าจะมาจากนักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะกองทุน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์

หรือไม่ก็อาจจะต้องรอให้ดัชนีปรับขึ้นไปเหนือ 1,500 จุดได้อีกนิดหน่อย แล้วค่อยเข้า แต่ก็อาจเลือกที่จะเล่นเป็นรายตัว ตามคำแนะนำของนักวิเคราะห์

หุ้นไทยตอนนี้ หากบรรดาบิ๊กแคป ยังไม่กลับมา หรือวิ่งขึ้นต่อไปได้

ดัชนีก็น่าจะวนเวียน แกว่งๆ ไปแบบนี้

เลือกเล่นหุ้นขนาดกลางและเล็กๆ กันไป

 

 

Back to top button