SUPER-W3 เอวัง!!!แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ในที่สุด หลังจากที่รีรอมานานหลายเดือน นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ก็ออกมาให้ความชัดเจนแล้วว่า เรื่องการจะแปลงสิทธิของ SUPER-W3 จำนวน 2,014.78 ล้านหน่วยครั้งสุดท้าย หลังจากที่ 4 ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีคนแปลงสิทธิเลย จะมีอนาคตเป็นเช่นไร


ในที่สุด หลังจากที่รีรอมานานหลายเดือน นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ก็ออกมาให้ความชัดเจนแล้วว่า เรื่องการจะแปลงสิทธิของ SUPER-W3 จำนวน 2,014.78 ล้านหน่วยครั้งสุดท้าย หลังจากที่ 4 ครั้งที่ผ่านมา ไม่มีคนแปลงสิทธิเลย  จะมีอนาคตเป็นเช่นไร

สำหรับ SUPER-W3 เริ่มเข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 22 พ.ค.59 จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ 2,014,782,930 หน่วย เป็นจำนวนหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิ 2,014,782,930 หุ้น มีอัตราการใช้สิทธิที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 4 บาท แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.59 บริษัทได้รายงานผลการใช้สิทธิของ SUPER-W3 ครั้งที่ 4 ซึ่งกำหนดวันใช้สิทธิในวันที่ 30 พ.ย.59 ที่ยังคงไม่มีผู้ใช้สิทธิแปลง SUPER-W3 เลย

เอากันให้ชัดเจนอย่างนี้ ก็เป็นอันหมดเรื่องคลุมเครือ หลังจากที่หลายเดือนมานี้ ความคลุมเครือของการแก้ปัญหาสภาพคล่องในอนาคตหลังวันที่ 31 มีนาคมของ SUPER-W3 เป็นเงื่อนไขกดดันต่อราคาหุ้นของ SUPER บนกระดานซื้อขายมาโดยตลอด ..มีอาการไปต่อไม่เป็น

จากหุ้นเทิร์นอะราวด์ กลายเป็นหุ้นที่พานักลงทุนไป “ติดดอย” จำนวนมาก…น่าเวทนา

ราคาหุ้น SUPER ไม่เคยขึ้นไปถึง 2.00 บาทอีกเลย ทั้งที่น่าจะแพงกว่านั้น เพราะกลับมาทำกำไรสวยงามต่อเนื่องทุกไตรมาส

ความคลุมเครือที่ผ่านมา อยู่ที่ทางเลือกในการฝ่าข้ามอุปสรรคทางการเงิน ในเวลาอีก 3 เดือนข้างหน้า ที่นับวันการแปลงสิทธิ SUPER-W3 ใกล้เข้ามาทุกขณะ คือ

1) ต้องหาทางดันราคาหุ้นสามัญ SUPER ให้แพงกว่า 4.00 บาท ภายในเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก เพราะโรค “เร่งไม่ขึ้น” ไม่สามารถบรรจบกับเงื่อนไขที่ระบุว่า “…อัตราการใช้สิทธิที่ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 4 บาท..”

2) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเลย และไม่ทำอะไรทั้งสิ้น

3) ตั้งกองทุน IFF โดยเอาโรงไฟฟ้าในกลุ่มตั้งเป็นบริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี มีกำลังผลิตไฟฟ้า 100 เมกะวัตต์ ขายทรัพย์สินเข้ากองทุน 1.2-1.8 หมื่นล้านบาท

4) แยกกิจการไฟฟ้า ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี เข้าจดทะเบียนในตลาด

ล่าสุดนายจอมทรัพย์ ออกมาพูดเสียงดังฟังชัดว่า กรณีที่ผู้ถือใบแสดงสิทธิ ไม่ยอมใช้สิทธิแปลง SUPER-W3 จะ “ไม่มีผลต่อฐานะทางการเงินและเงินทุนของบริษัท เนื่องจากยังมีแหล่งเงินทุนอื่นๆ ที่สามารถทำให้มีเงินทุนมาใช้ในการขยายธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง”

เรียกว่าจะยอมให้สูญค่าไปเลย…งั้นเถอะ

ช่วงเวลาที่เหลือ จากนี้ไป SUPER-W3 ก็แค่รอ ตอกตะปูปิดฝาโลง”เท่านั้น

นายจอมทรัพย์ ย้ำอีกว่า บริษัทมีการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงิน โดยร่วมกับธนาคารกรุงเทพ และบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) โดยเบื้องต้นมีแผนจะนำกำลังการผลิตไฟฟ้าเข้ากองทุนรวมฯ ประมาณ 100-150 เมกะวัตต์ (MW) คิดเป็นมูลค่ากองทุนรวมฯ ประมาณ 12,000-18,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยังต้องรอดูภาวะตลาด ดอกเบี้ยและจังหวะเวลาในขณะนั้นด้วย คาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดตั้งกองทุนฯ ได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 ของปี 2560

นอกจากนี้ ยังมีทางเลือกอื่นอีก โดย ธนาคารกรุงเทพ  จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ซึ่งได้ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ก็ยังมีวงเงินเครดิตไลน์ให้ประมาณ 27,000 ล้านบาท นอกเหนือจากการที่บริษัทเองก็จะมีรายได้เพิ่มเติมในอนาคตจากการขายไฟฟ้าเข้ามา เฉลี่ยเดือนละ 400 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทต่อปี จากกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 800 เมกะวัตต์

ศักยภาพด้านแหล่งเงินในหลายๆ ด้าน ทำให้มีความมั่นใจว่ามีเงินทุนมากพอในการรองรับการขยายธุรกิจ …ย.ห. อย่าห่วง

วงเงินทั้งกู้ธนาคารเจ้าหนี้ และเงินสดในกิจการ ที่เชื่อว่ามากเกินพอ ทำให้ เป้าหมายจะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2560 ของ SUPER ไร้กังวล แม้ว่าจะต้องการเงินใหม่อีก 85,000 ล้านบาท ในการลงทุนพลังงานลม ขนาด 700 เมกะวัตต์ อีก 70,000 ล้านบาท และพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 300 เมกะวัตต์ อีก 15,000 ล้านบาท

ชัดเจนขนาดนี้ ยังสงสัยอีก ก็คงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…(อันนี้ ท่านประธานจอมทรัพย์ ไม่ได้เอ่ยออกมา)

ทราบแล้ว…เปลี่ยน!!!         

 

Back to top button