SCB ขยับอีกครั้งลูบคมตลาดทุน

ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB กำลัง “ขยับ” ตนเองอีกครั้ง


ธนะชัย ณ นคร

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB กำลัง “ขยับ” ตนเองอีกครั้ง

ทั้งวัฒนธรรมองค์กร

รูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงิน

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ

รูปแบบการเสนอขาย โครงสร้างรายได้ และต้นทุนของธนาคารที่จะต้องเปลี่ยนไป

ไทยพาณิชย์มีเป้าหมายสำคัญด้วยการ “เพิ่ม” ฐานจำนวนลูกค้า และต่อไปอาจไม่จำเป็นที่ธนาคารจะต้องตั้งเป้าหมายว่า “มีกำไรมากสุด” ในกลุ่มธุรกิจธนาคารก็ได้

“อาทิตย์ นันทวิทยา” เริ่มรับตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยพาณิชย์ เมื่อช่วง 3 เมษายน 2558

ก่อนที่จะนั่งควบ กรรมการผู้จัดการใหญ่ อีกตำแหน่งด้วยในเวลาต่อมา

ก่อนหน้าที่คุณอาทิตย์จะเข้ามาร่วมงานกับไทยพาณิชย์

เขาเคยทำงานกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในตำแหน่ง Managing Director, Regional Head Capital Markets Southeast Asia

และดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร SCB เป็นบุคคลที่ดึงกลับมาทำงานที่ไทยพาณิชย์อีกครั้ง

การขยับตนเองอีกครั้งของไทยพาณิชย์ คุณอาทิตย์เริ่มพูดครั้งแรกเมื่อช่วงการแถลงข่าวประจำปี 2560 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง

ทว่า ในวันนั้น ยังไม่มีรายละเอียดมากนัก

คุณอาทิตย์ บอกครับว่า โลกเปลี่ยนไปเยอะมาก

พฤติกรรมการทำธุรกรรมการเงินของคนก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน

ธุรกรรมการเงินหลายๆ อย่าง มีการทำผ่านออนไลน์ ผ่านโซเชียลมากขึ้น (Mobile Banking) และคนจะเข้าสาขาน้อยลง หรืออาจมีนัยที่เป็นไปตามตามกระแส Digital Disruption

และนั่นคือที่มาของข้อสงสัยว่า ไทยพาณิชย์ จะปิดสาขา

ซึ่งคุณอาทิตย์ยืนยันว่า จะไม่มีการปิดสาขา

และพนักงานที่มีอยู่กว่า 2.5 หมื่นคน ก็ไม่ได้ปรับลดลง

เพียงแต่ว่า รูปแบบของสาขาจะต้องปรับเปลี่ยน ตามโลกที่เปลี่ยนแปลง และบุคลากรของธนาคารก็จะต้องมี Diversify ไปด้วยเช่นกัน

ที่ผ่านมาแม้ไทยพาณิชย์จะเป็นธนาคารที่มีผลกำไรสูงสุด

แต่กำไรที่เกิดขึ้นมาจากฐานลูกค้าที่ค่อนข้างน้อย

ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง

คุณอาทิตย์บอกว่า เราจะไม่ตั้งกำไรว่าต้องได้สูงสุด โดยไม่สนใจว่า “ได้มาอย่างไร” เพราะมันจะทำให้เรา “ไม่มีความแข็งแรง”

ดังนั้น สาขาของไทยพาณิชย์จะต้อง “ปรับ” ใหม่

รูปแบบ หรือขนาดอาจจะ “เล็กลง” ธุรกรรมหลายๆ อย่าง เมื่อจะต้องไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น

พื้นที่สาขาต่างๆ จึงต้องปรับมาเป็นพื้นที่การ “ให้บริการ”

ส่วนพนักงานขาย ก็จะต้องเป็น “ทีมขาย” โดยเฉพาะ

ไทยพาณิชย์ มีพนักงานประจำอยู่ 2.5 หมื่นคน ในจำนวนนี้เป็นพนักงานตามสาขากว่า 1.2 หมื่นคน

ผ่านมาถึงตอนนี้ ไทยพาณิชย์ได้มีการปรับพนักงานสาขาต่างๆ เป็น “ทีมขาย” แล้วกว่า 2 พันคน

การบริหารความมั่งคั่ง หรือ Wealth Management ทั้งกองทุน และธุรกิจประกัน(โดยเฉพาะประกันชีวิต) จะมีทีมงานที่เป็นทีมขายดังกล่าวนี้ เข้ามารับผิดชอบด้านการขายโดยเฉพาะ

ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ขายจะต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ และลูกค้าจะต้องตั้งใจที่จะซื้อ

คุณอาทิตย์ มองว่า เรื่องของ Wealth  Management ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

ธนาคารขนาดใหญ่ทั่วโลก ต่างแข่งขันเพื่อที่จะเจาะเข้าไป

และประเทศไทยเองก็ยังมีช่องว่างให้ตลาดขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะ “ประกันชีวิต”

ของ Wealth  Management จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้า และเมื่อมีฐานลูกค้ามากขึ้น ก็จะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้มากขึ้น และผลกำไรจะเพิ่มขึ้นตามมา

ผ่านมาถึงตอนนี้คุณอาทิตย์บอกว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับผู้บริหารระดับสูงไปหมดแล้ว

โดยเขาใช้เวลาไปกับเรื่องดังกล่าวกว่า 100 วันในปี 2559

และในปี 2560 ก็คาดว่าจะใช้เวลาอีกกว่า 100 วัน เพื่อทำความเข้าใจกับผู้บริหารระดับสูงที่มีระดับรองลงไปอีก

ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ทุกคนเข้าใจโจทย์ของธนาคารร่วมกัน

ทั้งหมดนี้คุณอาทิตย์บอกว่า จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ได้ภายใน 3 ปี

Back to top button