ADVANC นอกเหนือการควบคุม

สามวันทำการก่อนหน้าคือวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม ราคาหุ้นของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC วิ่งขึ้นไปปิดทำนิวไฮในรอบ 7 เดือนเศษ แต่ก่อนหน้าวันประกาศงบการเงินไตรมาสที่สองหรืองวดครึ่งแรกของปี ราคาหุ้นก็ร่วงลงต่อเนื่อง


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

สามวันทำการก่อนหน้าคือวันอังคารที่ 25 กรกฎาคม ราคาหุ้นของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC วิ่งขึ้นไปปิดทำนิวไฮในรอบ 7 เดือนเศษ แต่ก่อนหน้าวันประกาศงบการเงินไตรมาสที่สองหรืองวดครึ่งแรกของปี ราคาหุ้นก็ร่วงลงต่อเนื่อง

ล่าสุดวานนี้ ร่วงลงหนัก จนกระทั่งเกิดเป็นสัญญาณเทคนิค “อีกาสามตัว” ที่ชัดเจน  โดยที่ระหว่างวัน ราคาหล่นลงไปที่ 183.00 บาท แต่ดีที่กลับมาปิดที่ระดับ 185.50 บาทได้ทำให้ดูไม่เลวร้ายเกินไป  …ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่านี้คือการจบพักฐานเพราะยังมีคนประเมินว่า ราคาที่ร่วงลงมา…ยังสูงเกินไป

ผลลัพธ์จากแรงเทขายหนักของต่างชาติ ผสมกับกองทุนวานนี้อย่างหนัก ทำลายความพยายามของฝ่ายบริหารบริษัทที่นำโดย “คนโตตัวเล็ก” อย่างนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นักการตลาดมือฉมัง ที่ตัดสินใจกัดฟันจ่ายเงินปันผลกลางปี ในอัตรา 3.51 บาท/หุ้น แต่กำไรสุทธิไตรมาสสองหดตัว 25% เทียบกับระยะเดียวกันปีของก่อน และครึ่งปีหดตัว 13% จากภาระแบกรับต้นทุนค่าไลเซนส์-ขยายโครงข่าย ไม่ใช่เรื่องดีในระยะสั้น …แม้ว่ายังมีอนาคตที่ยังสามารถกลับมาสดใสอีกในระยะยาว

รายได้จากการให้บริการเติบโตต่อเนื่องอยู่ที่ 32,153 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากปีที่ผ่านมา และ 2.5% จากไตรมาสที่แล้ว ทั้งจากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบรายเดือนและธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง แต่มีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการทำแคมเปญส่วนลดค่าเครื่องลูกข่าย การขยายโครงข่าย 4G และค่าใช้จ่ายตามข้อตกลงการเป็นพันธมิตรกับทีโอที ถ่วงเอาไว้ บอกว่ายังไม่ถึงทางตัน

รายละเอียดของระยะสั้นมัวม่น ระยะยาวแจ๋วแหวว” ของ ADVANC มีดังนี้

  • รายได้การให้บริการโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น 6% y-y และ 1.9% q-q จากการเติบโตของกลุ่มลูกค้ารายเดือน ส่วนลูกค้าแบบเติมเงินยังลดจำนวนลงต่อเนื่อง แต่รายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายของ ADVANC ที่มุ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น
  • ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยรายได้ปรับตัวขึ้นมาเป็น 3% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด จากเดิมที่เพียง 0.5% จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นมาเป็น 4.45 แสนราย ในขณะที่ ARPU ก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • ค่าใช้จ่ายการตลาด (รวมค่าตัดจำหน่ายเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการร่วมทุนกับ TOT ค่าใช้จ่ายการอุดหนุนค่าเครื่องให้แก่ลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น) เป็น 1 พันล้านบาท  จากเดิมที่ 2.7 พันล้านบาท ในไตรมาสแรก 
  • ค่าใช้จ่ายการลงทุนรวมออกมาที่ 28 หมื่นล้านบาทในไตรมาสแรก โดยทางบริษัทตั้งประมาณการค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไว้ในช่วง 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท ในปีนี้
  • EBITDA เท่ากับ 17,108 ล้านบาท ทรงตัวจากทั้งไตรมาส 2/59 และไตรมาสที่แล้ว โดยมีอัตรากำไรEBITDA อยู่ที่ 8% และมีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 40.47 ล้านราย เป็นระบบเติมเงิน 33.48 ล้านราย และระบบรายเดือน 6.99 ล้านราย เทียบจากสิ้นปี 59 มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 41.03 ล้านราย เป็นระบบเติมเงิน 34.60 ล้านราย และระบบรายเดือน 6.43 ล้านราย สะท้อนการเคลื่อนย้ายพฤติกรรมการบริโภคได้ชัดเจนว่าจะทำให้อนาคตของบริษัทดีขึ้นชัดเจน เมื่อผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านไปแล้ว
  • นโยบายปันผลใหม่จากเดิม 100% เหลือแค่ 70% ที่ได้ประกาศออกมาก่อนหน้า ทำให้ ADVANC ลดการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 51 บาทต่อหุ้น โดยวันขึ้นเครื่องหมาย XD และวันจ่ายเงินปันผลคือวันที่ 7 และ 25 สิงหาคม ตามลำดับ

แม้ว่าการเติบโตของรายได้บริการที่เพิ่มขึ้นชัดเจน (จาก 4 ปัจจัยบวกคือ ผู้ใช้บริการแบบรายเดือน (postpaid subscribers) และธุรกิจอินเทอร์เน็ต บอร์ดแบนด์ (fixed-broadband) ความสำเร็จจากการเจาะตลาดลูกค้า 4G สำเร็จ และการใช้บริการด้านข้อมูลสูงขึ้น) และกำไรหลักที่ยังเป็นไปตามคาด..ราคาหุ้นยังร่วงได้แรงขนาดนี้ …ก็คงต้องมองด้วยความเป็นธรรมว่า ไม่ใช่ความผิดของผู้บริหาร….ที่ทำดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในสถานการณ์ยามนี้

การขายของต่างชาติ และกองทุนในประเทศที่สวมรอยตามติดๆ อย่างแรงชนิด “บวก 2” …ตีความได้ว่า เกิดจกปัจจัยอื่นที่นอกเหนือการควบคุม

อิ อิ อิ

Back to top button