ยิ่งสกัดยิ่งยุ

ภารกิจสำคัญของตำรวจทหารในรอบสัปดาห์คือ “ขอความร่วมมือ” มวลชนไม่ให้เดินทางมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งที่ผู้นำรัฐบาลบอกว่า “ไม่


ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง 

ภารกิจสำคัญของตำรวจทหารในรอบสัปดาห์คือ “ขอความร่วมมือ” มวลชนไม่ให้เดินทางมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งที่ผู้นำรัฐบาลบอกว่า “ไม่ห้าม”

ประธานสมาพันธ์เกษตรกรเชียงใหม่-ลำพูน เผยภาพสำเนาหนังสือยินยอม ที่เซ็นให้ตำรวจทหาร ซึ่งบุกถึงบ้านโดยไม่มีหมายค้น ฐานเคยมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์วันแถลงปิดคดี แถมรถตู้ที่จ้างไว้ก็ขอยกเลิกสัญญา เพราะถูกเรียกรายงานตัวถ่ายภาพทำประวัติ

รถตู้ในหลายจังหวัดก็ถูกเรียกไปคุย จนบอกเลิกสัญญากับชาวบ้าน ที่อุดรธานี มีคำสั่งให้ตำรวจตั้งด่านกับทหารและฝ่ายปกครอง หากพบมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจเป็นกลุ่มก้อนโดยจ้างเหมารถตู้รถบัส “อาจเข้าข่ายเป็นการชุมนุมทางการเมือง” ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด

กฎหมายฉบับไหนไม่ทราบ ชาวบ้านเหมารถตู้รถบัสไปทัศนาจรหรือไปงานลูกหลานรับปริญญาเป็นปกติ แต่ 2-3 วันนี้เหมาเข้ากรุงเทพฯ ไม่ได้ อาจมีความผิดฐานให้กำลังใจยิ่งลักษณ์

แม่ทัพภาคที่ 3 ปฏิเสธไม่มีการทำหนังสือยินยอม แต่ผู้ว่า สตง.กลับสนับสนุนว่าเป็นมาตรการที่ดี เพื่อดูแลบ้านเมืองให้สงบเรียบร้อย ก่อนหน้านี้ ท่านก็ทำเซอร์ไพรส์ เมื่อเผยว่าจะมีอปท.ใช้งบขนคนมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ แต่พอซักเข้าจริงๆ ก็ไม่ยักเผยว่า อปท.ไหนไม่ทราบ สตง.รู้ดีกว่าตำรวจทหาร ฝ่ายข่าวความมั่นคงได้อย่างไร

แน่ละ รัฐบาลยืนยันไม่ได้สกัดกั้น แค่ “ขอความร่วมมือ” แต่ฟังแล้วเหมือนเรียกน้ำท่วมว่า “น้ำรอระบาย”

ถามจริงว่าการ “ขอความร่วมมือ” อย่างเอิกเกริกนี้ จะสกัดกั้นมวลชนได้ หรือยิ่งยั่วยุให้มวลชนแข็งขันอุตสาหะมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์มากขึ้น

ต้องเข้าใจว่า ในตอนแรก การเรียกร้องมวลชนมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ แม้มีความหมายเป็นการแสดงพลัง แต่ทุกคนก็รู้ว่ากดดันศาลไม่ได้ พลิกสถานการณ์ไม่ได้

แต่พอฝ่ายรัฐออกอาการ พยายามทุกวิถีทางไม่ให้มา ก็เท่ากับเปลี่ยนเป้าหมายของการเดินทางมา ให้กลายเป็น “ท้าทายอำนาจรัฐ” โดยอัตโนมัติ

ใช่เลย มวลชนรู้ว่ามามากเท่าไหร่ก็กดดันศาลไม่ได้ แห่มากี่คันรถตู้รถบัสก็ไลฟ์บอย แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว มวลชนเกิดความรู้สึกว่า อยากห้ามกันดีนัก ฉะนั้นมาได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการท้าทายอำนาจรัฐบาล คสช. ว่าสกัดกั้นไม่สำเร็จ ส่วนศาลจะตัดสินอย่างไรเป็นอีกเรื่อง (อย่างน้อยก็ยังมีอุทธรณ์)

อ๊ะอ๊ะ พูดอย่างนี้ไม่ได้ยั่วยุ ฝ่ายรัฐเองนั่นแหละไปทำให้การเดินทางมาให้กำลังใจยิ่งลักษณ์กลายเป็นสัญลักษณ์ของการท้าทายรัฐบาล ถ้าทำเฉยเสียคงไม่เท่าไหร่ วิธีฉลาดๆ ก็มีให้เลือกใช้ เช่น เชิญฝ่ายศาลมาชี้แจงว่าคดียังอุทธรณ์ได้ อย่าเพิ่งคาดเดาแง่ร้าย ฯลฯ

แต่สิ่งที่ทำกลับตรงข้ามไง รวมทั้งการรีบไปอายัดบัญชี ยึดเงิน ในคดีความรับผิดทางละเมิด แถมการประมูลข้าวเป็นอาหารสัตว์ก็มีข่าวไม่ชอบมาพากล ตำรวจที่สระแก้วจับรถขนข้าวได้ กลับโดนย้ายฐาน “อาจมีเจตนาทำให้เกิดความเสียหาย”

ถึงตอนนี้ถ้ารู้ว่าสกัดไม่ได้ ก็ห้ามไปเลยดีกว่าครับ ใช้อำนาจ คสช.ห้ามให้กำลังใจยิ่งลักษณ์ ยกเว้นญาติมิตรทีมงานและแกนนำพรรค จะได้ไม่ต้องลำบากทั้งตำรวจทหารทั้งชาวบ้าน ไม่ต้องเขินอายหรอกว่าเป็นผู้นำแล้วกลับคำ ยังไงๆ ก็เป็นขวัญใจโพลล์ตลอดกาล

Back to top button