อย่าหลุด 1,650 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ระดับ 1,650 จุด กลายเป็นแนวรับสำคัญของวันนี้ (6 ส.ค.)


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ระดับ 1,650 จุด กลายเป็นแนวรับสำคัญของวันนี้ (6 ส.ค.)

นักวิเคราะห์จากหลายโบรกฯ มองตรงกันว่า ดัชนีไม่ควรหลุดแนวรับนี้ (เด็ดขาด)

เหตุผลก็คือ เพราะหากลงไปต่ำกว่านี้ จะทำให้โมเมนตัมของตลาดเสียศูนย์ และอาจลงไปหนักมากกว่าที่คาดกันไว้

ปัจจัยลบหลัก ๆ ที่เข้ามากระทบตลาดหุ้นไทยนั้น

หากเป็นเรื่องของระเบิด เชื่อว่า นี่คือประเด็นรอง เพราะเรื่องนี้ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ และนักวิเคราะห์ต่างมองกันว่า จะกระทบช่วงสั้นเท่านั้น

ทว่า หลักเลย มาจากลงตามหุ้นเอเชีย และยุโรป จากประเด็นเรื่องเทรดวอร์ หรือสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน

เมื่อวานนี้จะว่าไปแล้ว หุ้นเอเชียต่างลงกันหนักมาก

ทั้งนิกเกอิ ของญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน จีน รวมถึงตลาดหุ้นกลุ่มอาเซียน

ส่วนใหญ่แล้วจะลงมากกว่า 2-3%

ส่วนตลาดหุ้นไทยลบ 18.72 จุด มาที่ 1,665.99 จุด เปลี่ยนแปลง -1.11% ถือว่ายังค่อนข้างน้อยนะเมื่อเทียบกับหุ้นของเพื่อนบ้านอาเซียน และในเอเชีย รวมถึงฝั่งยุโรป

เมื่อวานนี้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) ยังจับมือกันขายสุทธิกันแบบสนุกสนาน

โดยเฉพาะกองทุนนั้นขายกันออกมาต่อเนื่องตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

บรรดาผู้บริหารกองทุนต่างบอกว่า ยังคงบอกไม่ได้ว่าจะหยุดขายเมื่อไหร่

รู้แต่เพียงว่า หุ้นที่มีอยู่ในพอร์ต ส่วนใหญ่จะมีกำไร จึงต้องขายออกมา ด้วยเหตุผลที่มีทั้งผลตอบแทนถึงเป้าหมาย หรือขายในช่วงที่ต่างชาติเข้ามาซื้อ

ส่วนตอนนี้ต่างชาติกลับมาแข่งกันขายกับกองทุน

ทำให้รายย่อยเป็นฝ่ายเข้ามารับไปซะอย่างนั้น

ต้องยอมรับว่าช่วงนี้แทบจะไม่มีข่าวดีเลย

นอกจากเรื่องเทรดวอร์ เรื่องดอกเบี้ยของเฟด และ ECB

นี่ยังมีเรื่อง MSCI ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยรอบนี้ประมาณ 90-110 ล้านเหรียญสหรัฐในเดือนสิงหาคมนี้

ทว่าไทยไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่ถูกปรับลดน้ำหนัก เพราะยังมีเกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดีย โดยเมื่อดูจากตัวเลขหรือมูลค่าที่ถูกปรับลดน้ำหนักแล้ว ของเราถือว่าน้อยสุด

เหตุผลที่ประเทศเหล่านี้ถูกปรับลดน้ำหนัก เพราะ MSCI จะมีการปรับน้ำหนักหุ้นจีน จาก 10% เป็น 15%

และในเดือนพฤศจิกายนนี้ จะมีการปรับน้ำหนักหุ้นจีน จาก 15% เป็น 20%

แน่นอนว่าทั้งของไทย เกาหลีใต้ อินเดีย และไต้หวัน จะถูกปรับลด

แต่ตลาดหุ้นไทยเรานั้น จะถูกปรับลงน้อยสุด หรือเพียง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ เท่านั้น

ตอนนี้คงยากที่จะประเมินว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทยตามที่คาดกันไว้หรือไม่ ซึ่งอาจต่ำ หรือมากกว่าคาดก็ได้

มีคำถามว่า แล้วอะไรล่ะที่จะเป็นปัจจัยบวก หรือเป็นข่าวดีได้บ้าง

คำตอบคือ ยังไม่ค่อยมีมากนัก

เพราะผลประกอบการ  “บจ.” ไตรมาส 2 จากการที่ดีดลูกคิด คำนวณกันออกมากันนั้น

อ่านแล้วก็ได้แต่ก่ายหน้าผาก

ยกเว้นแต่ว่า จะมี บจ.ใหญ่ ๆ ทำเซอร์ไพรส์ กำไรมากกว่าที่โบรกฯ คาดกันไว้นั่นแหละ

หรืออาจจะต้องไปรอลุ้นกันในไตรมาส 3 โน่นเลย

แนวโน้มวันนี้ อย่างที่บอกไว้ตอนต้นคือ หากยังคงลงต่อ ก็อย่าให้หลุด 1,650 จุด

ในช่วงเปิดตลาด ถูกมองว่า อาจดีดขึ้นตามสัญญาณทางเทคนิค

แต่น่าจะมีการขายทำกำไร หรือหนีตาย ขายหุ้นทิ้งกันออกมาบ้าง ทำให้ดัชนีระหว่างวันย่อตัวลง และพอมาปิดตลาดจะปรับตัวลดลง

Back to top button