MK กินปันผล

ประเด็นที่ทำให้ MK กลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการซื้อลงทุนระยะยาว น่าจะอยู่ที่ตัวบริษัทสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ราคาหุ้นบนกระดานไม่ค่อยตอบสนองเท่าที่ควร เพราะราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นหวือหวาเป็นช่วงๆ ที่มีการเข้ามาไล่ซื้อของนักลงทุนเท่านั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามหุ้นตัวนี้มีเรื่องเงินปันผลเป็นหลักอยู่


ประเด็นที่ทำให้ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการซื้อลงทุนระยะยาว น่าจะอยู่ที่ตัวบริษัทสามารถทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ราคาหุ้นบนกระดานไม่ค่อยตอบสนองเท่าที่ควร เพราะราคาหุ้นมีการปรับตัวขึ้นหวือหวาเป็นช่วงๆ ที่มีการเข้ามาไล่ซื้อของนักลงทุนเท่านั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามหุ้นตัวนี้มีเรื่องเงินปันผลเป็นหลักอยู่

ถ้ามองย้อนกลับไปจะพบว่า MK ปันผลดีจริงๆ โดยดูจากปี 2554 จนถึงปัจจุบัน อัตราเงินปันผลเฉลี่ยไม่น่าจะต่ำกว่า 5%  โดยในปี 2554 บริษัทให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 9.54% ถัดมาในปี 2555 บริษัทให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 5.23% ส่วนในปี 2556 บริษัทให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 5.95% ขณะที่ในปี 2557 บริษัทให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน 7.08% และในปี 2558 อาจคาดหวังอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนได้ที่ระดับ 7%

เนื่องจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 436.69 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 424.46 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์และการให้บริการเพิ่มขึ้น ส่วนทางด้านกำไรกลับลดลงเหลือ 30.51 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 44.78 ล้านบาท หรือ 0.05 บาทต่อหุ้น สาเหตุหลักเปนผลจากบริษัทมีกําไรขั้นตนจากการขายและบริการที่ลดลง

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจด้านการลงทุนของนักลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินแข็งแกร่งมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 6,694.83 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 709.74 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 9.44 เท่า แสดงว่าสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทมีมากอย่างเหลือเฟือ จนเกิดภาวะทุนจมในที่สุด

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีสินทรัพย์รวม 2,060.11 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น  5,500.88 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.38 เท่า แสดงว่าปัญหาหนี้สินไม่ได้รบกวนการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด

สำหรับไฮไลต์สุดท้ายของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ ค่า P/E อยู่ที่ระดับ 8.94 เท่า ถือว่ายังไม่แพงเท่าไรนัก และเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นที่ 6.39 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 1.50 เท่า ได้ราคาหุ้นเหมาะสมที่ระดับ 9.59 บาท ขณะที่ราคาหุ้นบนกระดานอยู่ที่ระดับ 4.74 บาท นั่นแปลว่าราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก

แล้วนักลงทุนจะเชื่อตามแนวความคิดข้างต้นแค่ไหน?

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.น.ส.ชุติมา ตั้งมติธรรม 94,522,353 หุ้น 10.99%

2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 82,120,884 หุ้น 9.54%

3.นายชวน ตั้งมติธรรม 77,536,615 หุ้น 9.01%

4.นางอัญชัน ตั้งมติธรรม 44,093,897 หุ้น 5.12%

5.นายศิรัตน์ ธำรงรัตน์ 34,000,000 หุ้น 3.95%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นายสุเทพ วงศ์วรเศรษฐ ประธานกรรมการ

2.นายฟิลิปวีระ บุนนาค กรรมการ3.นางสุธิดา สุริโยดร กรรมการ

4.น.ส.นภาพร กมลศักดาวิกุล กรรมการ

5.นายศักดิ์ศรี พฤฒิธรรมกูล กรรมการ

Back to top button