MK หุ้นดีราคาถูก..?

เป็นที่ฮือฮาในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อย เมื่ออยู่ ๆ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ก็ป่าวประกาศทุ่มงบ 2,770 ล้านบาท เพื่อเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ที่ราคาหุ้นละ 3.10 บาทซะงั้น


สำนักข่าวรัชดา

เป็นที่ฮือฮาในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ไม่น้อย เมื่ออยู่ ๆ บริษัท ฟินันซ่า จำกัด (มหาชน) หรือ FNS ก็ป่าวประกาศทุ่มงบ 2,770 ล้านบาท เพื่อเทนเดอร์ฯ หุ้นทั้งหมดของบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ที่ราคาหุ้นละ 3.10 บาทซะงั้น

ทั้ง ๆ ที่ FNS ก็ถือหุ้นใหญ่ MK อยู่แล้ว 18.80% ไม่นับรวมบริษัท ซีพีดี แอสเซท จำกัด ที่ถือหุ้น MK 5.54% และบริษัท ซีพีดี โฮลดิ้ง จำกัด ที่ถือหุ้นอีก 5.50% ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับ FNS โดยเข้ามาซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่เดิม “ชวน ตั้งมติธรรม” เลยทำให้ MK ตกมาอยู่ในมือ FNS

จึงไม่แคล้วถูกมองว่าจะเป็นการเปิดศึกชิงหุ้น MK รอบใหม่ใช่หรือไม่..?

ก่อนหน้านี้ถ้ายังจำกันได้ ช่วงกลางปี 2561 ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับต้น ๆ MK อย่างบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI โดยบริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ก็เคยประกาศตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ หุ้น MK มาแล้วรอบหนึ่ง ที่ราคาหุ้นละ 4.10 บาท ช่วงระหว่างวันที่ 25 ก.ค. 2561-31 ส.ค. 2561 ด้วยเงื่อนไขต้องได้หุ้นไม่ต่ำกว่า 25%

แต่ปรากฏว่ามีการขายหุ้นออกมาแค่ 3 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 0.30% เท่านั้น สาเหตุหลักเพราะกลุ่ม FNS ไม่ยอมขาย…

แผนกลืนกินหุ้น MK ของ SPALI จึงพังไม่เป็นท่า ต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไป…

แล้วล่าสุด FNS มาตั้งโต๊ะเทนเดอร์ฯ ซะเอง…แถมราคาต่ำกว่าที่ SPALI เคยทำเทนเดอร์ฯ ตั้ง 1 บาท

ก็น่าคิดว่า MK มีดีอะไร..? ทำไมจึงเป็นที่หมายปองทั้งฟินันซ่า และ “ตั้งมติธรรม”..?

ทั้ง ๆ ที่ผลประกอบการของ MK ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ปี 2559 มีรายได้รวม 3,081 ล้านบาท กำไรสุทธิ 350 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 11.38% ปี 2560 มีรายได้รวม 3,264 ล้านบาท กำไรสุทธิ 233 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 7.15% ปี 2561 มีรายได้รวม 4,713 ล้านบาท กำไรสุทธิ 305 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 6.49% ปี 2562 มีรายได้รวม 4,602 ล้านบาท กำไรสุทธิ 177 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 3.86%

ล่าสุดครึ่งปี 2563 มีรายได้รวม 1,545 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 94 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ -6.15%

ขณะที่โครงการใหม่ ๆ ก็ไม่ค่อยมี…

ถ้าจะมีของดีที่ซ่อนอยู่บ้าง เท่าที่เห็นตอนนี้น่าจะเป็นกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรที่สูงถึง 4,000 ล้านบาท

นั่นแปลว่า FNS ใช้เงินแค่ 2,770 ล้านบาท แต่ได้บริษัทที่มีกำไรสะสมสูงถึง 4,000 ล้านบาท…มีส่วนต่างเห็น ๆ 1,000 ล้านบาท

ที่สำคัญ จะเห็นว่าราคาเทนเดอร์ฯ ที่ 3.10 บาท เป็นราคาที่ต่ำกว่าบุ๊กแวลูครึ่งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันบุ๊กแวลู MK อยู่ที่ 6.14 บาท เท่ากับว่าถ้าหากการซื้อกิจการครั้งนี้สำเร็จ… FNS ก็จะได้ของดีราคาถูกไปน่ะสิ..!!

แหม๊…ต้องบอกว่าเกมนี้ฉลาดปราดเปรื่องจริง ๆ…

ส่วนประเด็นที่ว่า MK เป็นอสังหาฯ ยุคเก่า เป็นแบรนด์ที่เคยรุ่งเรืองในอดีตในชื่อ “หมู่บ้านชวนชื่น” แต่ถ้าเทียบกับปัจจุบัน คนรู้จักน้อย… FNS จะเอาไปทำอะไร..?

สิ่งที่เป็นไปได้ 1) MK อาจมีที่แลนด์แบงก์เยอะ เลยเป็นที่หมายปองของ FNS

หรือ 2) FNS ต้องการขยายพอร์ตอสังหาฯ ให้ใหญ่ขึ้น เนื่องจากธุรกิจการเงินตอนนี้ก็เหนื่อย จึงต้องกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่น ๆ มากขึ้น

ส่วนมุมของ SPALI ถ้าได้ MK มา ก็สามารถ Synergy ธุรกิจระหว่างกันได้…ที่สำคัญจะทำให้พอร์ตสินทรัพย์ของ SPALI ใหญ่ขึ้น…

จึงน่าจับตาว่า “ตั้งมติธรรม” จะแก้เกมฟินันซ่าอย่างไร..?

แต่ศึกนี้ไม่ต่างจากศึกแห่งศักดิ์ศรี “เฮียประทีป ตั้งมติธรรม” ไม่น่าจะยกธงขาวง่าย ๆ หรอก (มั้ง)

ใช่มั้ยคะเฮีย..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button