ถอยตั้งหลัก

* อาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ของดัชนีที่เกิดขึ้นในคราวนี้ทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยถึงเวลาถอยตั้งหลักเพื่อรอโอกาสทะยานขึ้นรอบใหม่ หลังตัวแปรที่ทำให้ตลาดหุ้นพุ่งแรงแซงทางโค้งไม่มาตามนัด จึงกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ สามารถขายหุ้นทิ้งอย่างมีความชอบธรรม “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหาจังหวะขายหุ้นทำกำไรออกไปบางส่วนเพื่อเซฟตัวเองไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* อาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ของดัชนีที่เกิดขึ้นในคราวนี้ทำให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยถึงเวลาถอยตั้งหลักเพื่อรอโอกาสทะยานขึ้นรอบใหม่ หลังตัวแปรที่ทำให้ตลาดหุ้นพุ่งแรงแซงทางโค้งไม่มาตามนัด จึงกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ สามารถขายหุ้นทิ้งอย่างมีความชอบธรรม “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหาจังหวะขายหุ้นทำกำไรออกไปบางส่วนเพื่อเซฟตัวเองไงล่ะคะ

* เนื่องจากดัชนีจะแกว่งตัวรอข่าวดีอีกพักใหญ่ ๆ จึงมีความเสี่ยงที่จะทรุดตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 1,600 จุด เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ ในบ้านเรายังวุ่นวายไม่เลิกสักที แถมนักการเมืองก็กัดอย่างกับหมาบ้าไม่เว้นในแต่ละวัน (ควรจะร่วมมือร่วมใจกันมากกว่า) “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหาช่องทางโกยเงินเข้ากระเป๋าในระยะสั้นไปก่อน เพราะไม่รู้ว่า โมเมนตัมต่อจากนี้จะเป็นเช่นไรน่ะสิ

* ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวไปมาก่อนจะมายืนปิดที่ระดับ 1,612.88 จุด บวกไป 0.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 แสนล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ถึงเวลาต้องหาที่พักเหนื่อยเป็นการชั่วคราว ต่อจากนั้นค่อยดูทางลมจะไปทางไหนอีกที น้องโมจึงอยากให้แฟนคลับประเมินเหตุการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาพบว่า กองทุนขายหุ้นออกไปมากถึง 4 พันล้านบาทแบบนี้..หุ้นไทยจะไปต่อได้อย่างไร?

* คล้ายกับการบวกสองวันติดของแบงก์สายเขียว KBANK อาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับพวกอ่อนหัด แต่สำหรับม้าแก่ชำนาญทางกลับมองเรื่องนี้เป็นการดันหุ้นเพื่อประลองแรงขายมีเยอะขนาดไหน? เมื่อบวกกับการขยับตัวของหุ้นก็อยู่ในระนาบเดิมที่เล่นกันมาร่วมเดือน ความเสี่ยงในการทิ้งตัวลงแรงเลยน้อยลงไปโดยปริยาย และเปิดโอกาสให้หุ้นสวนกระแสอีกนิดหน่อย จึงอยากเตือนแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ 124.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.02 พันล้านบาท มันทำให้ความเสี่ยงสูงขึ้นกว่าเดิมนะจ๊ะ

* ขนาดหุ้น IVL ที่หลายคนประเมินว่า เจ๋ง ๆ แน่ ยังโดนถล่มหนัก 3 วันติด จนหุ้นลงมายืนปิดที่ 43 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.97 พันล้านบาท แถมเป็นการทรุดตัวจนหลุดเส้นแนวรับ 75 วันที่บริเวณ 44 บาท และทำท่าจะไหลลงไปหาเส้นแนวรับ 200 วันที่บริเวณ 38 บาท แบบนี้..มันไม่ใช่จังหวะที่ต้องสวมวิญญาณเป็นฮีโร่เข้าไปรับหุ้นเลยพับผ่าสิ!

* ส่วนใครที่คิดว่า ตัวเองมีดี และเป็นคนมีของ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ลุยหุ้นเสือดำ ITD แบบไม่ต้องลังเลใจ เพราะสตอรี่ปีนี้ถูกวางพล็อตไว้ที่ “เทิร์นอะราวด์” จึงกลายเป็นหุ้นที่มีการลากหุ้นเป็นช่วง ๆ เพื่อแสดงให้ชาวหุ้นได้เห็นว่า มีเจ้ามือคอยคุมเกมอยู่เบื้องหลัง และการขึ้นมาปิดที่ 2.94 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.48 พันล้านบาท คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับหุ้นที่พยายามโชว์ของนะคะ

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น TTA เพื่อชี้ให้เห็นการเล่นเที่ยวนี้มาแบบจัดเต็ม โดยเฉพาะในมุมของยุคทองธุรกิจเดินเรือ มันเป็นสตอรี่ที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเร้าใจขึ้นมาทันที พร้อมกับโฟกัสไปที่กำไรไตรมาส 2 จะเลิศสะแมนแตนสุด ๆ บรรดาผู้เล่นตัวหลักเลยกระโจนใส่มือเป็นระวิง จนหุ้นขึ้นไปถึง 18.30 บาท แต่สุดท้ายโรยตัวลงมาปิดที่ 17.70 บาท บวกไปแค่ 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.99 พันล้านบาทแบบนี้..จบเกมแล้วกระมัง!

* เหมือนกับในรายของหุ้นร้อน EFORL ไม่เคยมีอะไรดี ๆ ให้คนอย่างเดี๊ยนจดจำสักอย่าง จึงไม่อยากเอ่ยถึงให้เป็น…ปาก! ผสานกับตัวธุรกิจก็มีเรื่องวุ่นวายให้ปวดสมองไม่หยุดหย่อน “โมนิก้า” เลยมองการขึ้นมาปิดที่ 0.16 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 326 ล้านบาท น่าจะโอเว่อร์แอ็คติ้งเกินไปหน่อยสำหรับหุ้นที่เคยได้ชื่อว่า พาคนไปตายเป็นเบือนะตัวเอง

* สำหรับใครที่ต้องการหุ้น “พื้นฐานแกร่ง” เพื่อความอุ่นใจในชีวิต โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองหุ้น HFT เพื่อชี้ให้เห็นความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับแถวหน้าของตลาดหุ้นไทย และการที่หุ้นยืนอยู่ที่ระดับ 7.20 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134 ล้านบาท ก็ไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับค่า PE 10 เท่า จึงกลายเป็นหุ้นที่แฟนคลับไม่ควรพลาด และน่าจะถึงเวลาทยอยเก็บหุ้นแล้วนะจ๊ะ

Back to top button