แอบดัน..ตอนเผลอ

* อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อย่าเพิ่งคิดว่า “โมนิก้า” เป็นกลุ่มคนที่นิยมชมชอบเรื่อง “ลามก..จกเปรต” เพียงเพราะอ่านจั่วหัวแล้วคิดกันไปไกลสุดกู่ พร้อมกับจินตนาการขั้นเทพยาวกันไปเรื่อยเปื่อย จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจไปในทางเดียวกันว่า เรื่องราวที่เม้าท์ในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นล้วน ๆ และอย่าได้หลงเข้าไปเล่นเกมคนอื่นเป็นอันขาด เดี๋ยวจะหาว่า คนสวยไม่เตือนนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ..อย่าเพิ่งคิดว่า “โมนิก้า” เป็นกลุ่มคนที่นิยมชมชอบเรื่อง “ลามก..จกเปรต” เพียงเพราะอ่านจั่วหัวแล้วคิดกันไปไกลสุดกู่ พร้อมกับจินตนาการขั้นเทพยาวกันไปเรื่อยเปื่อย จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจไปในทางเดียวกันว่า เรื่องราวที่เม้าท์ในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้นล้วน ๆ และอย่าได้หลงเข้าไปเล่นเกมคนอื่นเป็นอันขาด เดี๋ยวจะหาว่า คนสวยไม่เตือนนะจะบอกให้

* โดยเฉพาะแรงซื้อที่อัดแน่นเข้ามาตั้งแต่เช้าตรู่ จนดูเหมือนดัชนีจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,630 จุดอีกครั้งนั้น “โมนิก้า” มองเป็นการเล่นทีเผลอของพวก “กองทุน” และ “ฝรั่ง” ซึ่งเคยเห็นกันมาแล้วหลายรอบด้วยกัน เดี๊ยนถึงเฉย ๆ กับการขึ้นมายืนปิดที่ 1,626.27 จุด บวกไป 13.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.41 หมื่นล้านบาท เพราะเที่ยวนี้ก็เอาเรื่องวัคซีนมาเป็นตัวบิวท์อารมณ์อีกเช่นเคยพะยะค่ะ

* ประเด็นถัดมาคือ การกลับมาไล่หุ้นแบงก์ และอิเล็กทรอนิกส์ น่าจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ดัชนีเดินหน้าขึ้นไปอย่างมั่นคงก็จริง แต่ในขณะเดียวกันต้องเข้าใจด้วยว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2564 น่าจะต่ำกว่าเป้าที่มองไว้ในทีแรก จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่ยังกลิ้งไปกลิ้งมา ส่งผลให้ตัวชี้ขาดของเรื่องราวทั้งหมดอยู่ที่ผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาปังปุริเย่ขนาดไหนนะตัวเอง

* ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” มองการขยับตัวของหุ้น HANA ขึ้นมาปิดที่ระดับ 69 บาท บวกไป 5.25 บาท หรือขึ้นไป 8.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท ล้วนมาจากความคาดหวังผลงานในงวดถัดไปจะออกมาดี ผสานกับหุ้นยังเทรดบนค่า PE 25 เท่า จึงมีแก๊ปให้นักเล่นกลุ่มสถาบันเข้ามาดันอีกรอบแบบนี้ เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า ช่างเหมาะต่อการโหนกระแสเสียจริง ๆ เจ้าค่ะ

* ส่วนรายที่ซัดกันหนักจริง ๆ และเล่นล่วงหน้ากันไปเยอะ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น KCE เป็นรายถัดมา เพราะการวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 72 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.06 พันล้านบาท เอาเข้าจริงก็เป็นการเด้งขึ้นวันแรกหลังจากโดนขาย 4 วันติด เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกำไรไตรมาส 2 จะทำได้สูงกว่าไตรมาส 1 ขนาดไหน? เพราะจะเป็นตัวชี้ขาด PE 68 เท่าควรจะได้ไปต่อไหม?

* เหมือนกับในรายของ ADVANC กระชากขึ้นมาปิดที่ 173.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.08 พันล้านบาท กลายเป็นช็อตที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่เล่นรอบ เพราะเป็นการขึ้นแบบจริงจังในรอบเกือบสองเดือน บวกกับช่วงนี้เป็นเกมของพวกสถาบันลุยหุ้นเสียด้วย “โมนิก้า” เลยมองว่า เกมไม่น่าจะจบเร็ว และน่าจะมีการต่อเวลาพิเศษ เพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 177 บาทนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของแบงก์ตราดอกบัว BBL ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 120.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.76 พันล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการไล่หุ้นขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 130 บาท ได้สบาย ๆ เพราะมองในมุมของค่า PE 13 เท่าก็อุ่นใจได้ทันทีว่า มีความเสี่ยงต่ำเมื่อเทียบกับแบงก์ตัวอื่น ผสานกับ BV อยู่สูงถึงระดับ 241 บาทแบบนี้..มันน่าเคาะขวารัว ๆ เลยพับผ่าสิ!

* เช่นเดียวกับในรายของหุ้น TIDLOR พุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 43.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท ทั้งที่สามสี่วันก่อนแสดงอาการไม่ค่อยดี “โมนิก้า” ถึงมองการวิ่งขึ้นเที่ยวนี้เป็นการตลบหลังของพวกสถาบันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะคนที่สามารถยกหุ้นตัวนี้ขึ้นแบบชิล มันเป็นใครอื่นไม่ได้เลยจริง ๆ วันนี้จึงมีลุ้นไปต่อแบบไม่มีเงื่อนไขนะออเจ้า

* ส่วนรายที่น่ากังขาดันกลายเป็น CHG หลังวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.70 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 7.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 935 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 40 เท่า น่าจะเป็นจุดที่เกือบจะเต็มแม็กของหุ้นตัวนี้แล้วกระมัง! แถมเมื่อย้อนดูข้อมูลเก่า ๆ ในอดีตจะเห็นว่า นี่เป็นออลไทม์ไฮนับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นในช่วงปี 2556 จึงอยากให้แฟนคลับประเมินแวลูของหุ้นมันตึงแล้วหรือยังเจ้าคะ

Back to top button