พาราสาวะถีอรชุน

โล่งอกเป็นอย่างยิ่งสำหรับ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่อีกไม่กี่วันก็จะกลายเป็นอดีตผบ.ตร. หลังจากที่ “น้องตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำกปปส.ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถอนตัวไม่เข้ารับการคัดเลือกให้เป็นตำรวจสังกัด 191 โดยเจ้าตัวเสียดายและเสียใจถึงขั้นหลั่งน้ำตาตัดพ้อไม่มีวาสนาที่จะได้สวมชุดสีกากีและติดดาว


โล่งอกเป็นอย่างยิ่งสำหรับ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่อีกไม่กี่วันก็จะกลายเป็นอดีตผบ.ตร. หลังจากที่ “น้องตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำกปปส.ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ถอนตัวไม่เข้ารับการคัดเลือกให้เป็นตำรวจสังกัด 191 โดยเจ้าตัวเสียดายและเสียใจถึงขั้นหลั่งน้ำตาตัดพ้อไม่มีวาสนาที่จะได้สวมชุดสีกากีและติดดาว

พร้อมๆ กับการแถลงไล่หลังของลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ออกอาการเสียดายแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อดได้คนมีความรู้ความสามารถเข้าไปช่วยงาน คงไม่ต้องสาธยายอะไรให้เมื่อยตุ้มที่เขารับส่งลูกกันเป็นทอดๆ แค่เท่านี้ผบ.ตร.ก็แทบจะไปไม่เป็นแล้ว โดยเฉพาะกับสิ่งที่ลูกน้องเขียนกลอนตั้งเป็นปุจฉา อยากถามนาย ไม่เจ็บ ใช่ไหมครับ นายถึงจับ ยัดเยียด ตั้งยศให้ มันฝากแผล ยังมีผล แสนเจ็บใจ ขอเลิกไหว้ นายสูงใหญ่ จากใจจริง

กลอนบทนี้มันบาดลึกสะท้อนถึงความรู้สึกของคนในแวดวงสีกากีได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญงานนี้ความจริงแล้วถ้าไม่ลับๆ ล่อๆ และทำทุกอย่างให้โปร่งใส ไม่ใช่แค่เปิดรับกันตำแหน่งเดียวแล้วเป็นหวยล็อกมันคงไม่เกิดกระแสต่อต้านกันมากขนาดนี้ เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว คงต้องฝากไปยังสมยศว่า ชีวิตข้าราชการก็ไม่ต่างจากนักการเมืองเท่าใด

ในยามที่มีตำแหน่งแห่งหนคนก็ยกหางนับหน้าถือตา แต่วันที่หมดอำนาจวาสนาแล้ว ถ้าไร้ซึ่งความดีความชอบ คนที่เคยเรียกว่านายทุกคำหน้าเขาก็ยังแทบจะไม่มอง ต้องยกเอาบทกลอนของพระราชวิจิตรปฏิภาณหรือเจ้าคุณพิพิธ ไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ไม่ใช่เฉพาะกรณีของผบ.ตร.เท่านั้น หากแต่รวมถึงข้าราชการและอดีตข้าราชการที่กำลังใหญ่โตโชว์พลังอยู่ในเวลานี้

สิ้นยศและหมดศักดิ์ สิ้นคนรักคนภักดี ออกงานที่นั่น–นี่ ไร้เก้าอี้ที่จะนั่ง รายใหม่มาใหญ่แทน คนแห่แหนกันคับคั่ง แห่ห้อมล้อมหน้า–หลัง เพราะเขาหวังความเจริญ นายเก่าก็เศร้าใจ ออกงานใดให้เคอะเขิน ทักคนคนยังเมิน เดินจากไปไร้คนส่ง นี่คือสัจธรรม ที่ควรนำมาปลดปลง ดับกลุ้มดับลุ่มหลง ในยศศักดิ์จักสุขแล แค่นี้ก็น่าจะทำให้ดวงตาเห็นธรรม

การทาบทามตัวบุคคลเพื่อมานั่งเป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือกรธ. ตอนนี้คงตัดรายชื่ออื่นๆ ทิ้งไปได้ ตัวเลือกสุดท้ายและคงจะเป็นคำตอบสุดท้ายด้วยหนีไม่พ้น มีชัย ฤชุพันธุ์ เพราะน้องรองอย่าง วิษณุ เครืองาม พูดไว้ชัด หากพี่ไม่รับคงต้องเป็นผม ส่วน อานันท์ ปันยารชุน ที่ชื่อโผล่มาเป็นแคนดิเดต ด้วยต้นทุนทางสังคมที่สูงไม่น่าจะเอาชื่อเสียงที่สะสมมานานมาเสี่ยง

ขณะที่ตัวของมีชัยนั้นแทบจะไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไร เพราะในฐานะสมาชิกคสช.น่าจะเข้าใจแนวทางที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากจะให้บัญญัติไว้ในร่างรัฐธรรมนูญได้เป็นอย่างดี มิหนำซ้ำ งานนี้เหมือนกับการขายพ่วงซื้อ 1 ได้ถึง 3 เพราะได้มีชัยมาเป็นประธานที่ปรึกษาซึ่งจะต้องทำหน้าที่แนะนำอย่างใกล้ชิดย่อมหนีไม่พ้นวิษณุและ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่รักกันมาอย่างยาวนาน

อีกเหตุผลที่ทำให้เชื่อว่าต้องเป็นมีชัยอย่างแน่นอนก็คือ การไม่ประกาศรายชื่อทั้งหมดก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติของบิ๊กตู่ เนื่องจากเกรงว่าเมื่อมีรายชื่อของมีชัยที่เป็นสมาชิกของคสช.เป็นประธานกรธ. อาจจะถูกต่างชาติตั้งคำถามเอาคนที่ร่วมหัวจมท้ายกับคณะรัฐประหารมาร่างรัฐธรรมนูญ แล้วมันจะได้กฎหมายที่เป็นประชาธิปไตยอย่างไร

ท่าทีของนานาชาติที่โอบล้อมประเทศไทยนั้น เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ วันวานทางคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปหรืออียูเพิ่งออกมาแถลงข่าวไม่มีการยืดเส้นตายในการพิจารณาให้ใบแดงไทยต่อการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายตามที่โฆษกรัฐบาลไทยแถลงแต่อย่างใด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามเดดไลน์เดิมคือเดือนตุลาคมนี้

ล่าสุด สำนักงานคณะผู้แทนอียูประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้มีการกลับเข้าสู่กระบวนการทางประชาธิปไตยโดยเร็ว โดยเห็นว่าในช่วงที่จะเริ่มกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขอให้รัฐบาลไทยเคารพเสรีภาพในการพูดและการชุมนุม การอภิปรายสาธารณะจะต้องทำได้อย่างเต็มรูปแบบและเป็นเสรีเท่านั้น

โดยเห็นว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่สามารถได้ยิน จะทำให้เกิดการปฏิรูปและความสมานฉันท์ที่แท้จริง โดยที่สำนักงานคณะผู้แทนอียูประจำประเทศไทยเชื่อว่า หลักนิติธรรม การปกป้องและการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญแก่ความมั่นคงและความก้าวหน้า พร้อมขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมืองด้วย

แถลงการณ์ที่ออกมาในจังหวะซึ่งผู้นำประเทศไทยอยู่ระหว่างการร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติย่อมไม่ธรรมดา เช่นเดียวกันกับเดือนหน้าจะต้องครบกำหนดเส้นตายที่อียูจะพิจารณากรณีการทำประมงผิดกฎหมาย ทำให้เชื่อได้ว่า อาจจะมีแถลงการณ์ฉบับต่อๆ มาที่นอกเหนือจากข้อเรียกร้องแล้ว จะพ่วงด้วยมาตรการลงโทษหากไม่ทำตาม

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาบทบาทของทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยอย่าง กลิน ทาวเซนต์ เดวี่ส์ ที่เดินทางมาถึงกรุงเทพฯเรียบร้อยแล้ว พร้อมประกาศตัวอยากเริ่มงานทันที หากย้อนกลับไปดูถ้อยแถลงของเขาต่อคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ น่าจะเป็นภาพสะท้อนท่าทีของมะกันได้เป็นอย่างดี

สหรัฐฯยืนยันว่า ประชาธิปไตยจะสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนชาวไทยเลือกผู้แทนและผู้นำของตนเองได้อย่างอิสระและอย่างเท่าเทียมกัน สหรัฐฯได้ระงับความช่วยเหลือบางประการตามที่กฎหมายกำหนด จนกว่าไทยจะมีการบริหารประเทศโดยรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

เมื่อไทยมีรัฐบาลดังกล่าวแล้ว ประเทศเราทั้งสองจึงจะสามารถกลับไปสู่การมีความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีได้อย่างเต็มรูปแบบ เหล่านี้คือโลกแห่งความเป็นจริง ประเทศต่างๆ จะเต็มไปด้วยสายตาและคำถาม สิ่งสำคัญที่จะบอกกับชาวโลกได้คือความจริงเป็นเช่นไร จริงอยู่ที่ว่ารัฐบาลนี้อาจทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่สามารถทำได้สำเร็จตามเป้าหมาย เป็นการทำตามกติกาตัวเองโดยไม่ได้ทำตามกติกาสากล นั่นเป็นผลให้ขาดความเชื่อมั่นจากประชาชนและนานาชาติ

Back to top button