คึกแล้วแป้ก (ทุกที)

ตอนนี้กำลังเกิดปรากฎการณ์สาดหุ้นเล็กชนิดโงหัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว และบนโลกออนไลน์มีการสาวไส้สื่อฝั่งตรงข้าม เพื่อเปิดทางให้คนของทางการเข้าไปเช็คบิล


*วันนี้คงต้องย้ำกันให้รู้อีกครั้งว่า สถานการณ์บ้านเมือง และตลาดหุ้นไทย ยังตกอยู่ในภาวะคลุกฝุ่นไปอีกนาน เพราะในแต่ละวันมักมีตัวแปรที่อยู่เหนือการควบคุมเกิดขึ้นใหม่ทุกวัน ส่งผลให้สถานการณ์รอบตัวไม่นิ่งสักที และภาพตรงนี้กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักลงทุนหันมาเล่นสั้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่แปลกใจที่หุ้นหลายตัวมีอาการคึกคักแบบไม่เหตุผล แต่หลังจากนั้นก็ร่วงหนักแบบไร้คำตอบไงหล่ะค่ะ

*โดยเฉพาะอาการของดัชนีที่พุ่งแรงแบบงงๆ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,544.22  จุด บวกไป 12.98 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.31 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นพล็อตเดิมๆ ที่แฟนคลับขาประจำรู้ซึ้งเป็นอย่างดี และต้องคิดเพิ่มขึ้นไปอีกนิดหนึ่งคือ วันนี้ราคาหุ้นวิ่งรับข่าวเต็มแม็กหรือยัง? และยังเหลืออัพไซด์ให้เล่นต่อขนาดไหน? ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นจะเป็นตัวกำหนดแนวทางการเคาะขวาสมเหตุสมผลขนาดไหนเจ้าค่ะ

*ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปแนะนำอะไรมากมาย แต่สิ่งที่อยากเม้าท์กับคนในวงการตลาดหุ้นก็คือ ตอนนี้กำลังเกิดปรากฎการณ์สาดหุ้นเล็กชนิดโงหัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว และบนโลกออนไลน์มีการสาวไส้สื่อฝั่งตรงข้าม เพื่อเปิดทางให้คนของทางการเข้าไปเช็คบิลแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าติดตามสำหรับชาวเผือกอย่างแท้ทรู เพราะสงครามข่าวได้อุบัติขึ้นอีกครั้ง..อิอิอิ

*เหมือนกับกลิ่นอายคาวเลือดของหุ้น 7UP ก็ยังส่งกลิ่นตุๆ โชยออกมาเป็นระรอก พร้อมกับโยนกันไปโยนกันมาว่า แกทุบ! คือเกมโหดที่คนเล่นต้องเตรียมใจรับสภาพแบบไม่มีข้อแม้ เพราะการเล่นกับของร้อนโดยมีเจ้ามือก๊วนต่างๆ เข้ามาร่วมผสมโรง มันเป็นเกมที่จับมือใครดมไม่ได้อย่างแน่นอน และการยืนนิ่งสงบอยู่ที่บริเวณ 1.22 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 184 ล้านบาท ก็ยังไม่ใช่ที่สุดของการปิดเกมนะจะบอกให้

*ส่วนรายที่ชอบเปิดแนวรบใหม่ๆ เพื่อล่อให้เม่าเข้ามาตะลุมบอลอย่าง XPG ก็เป็นเกมชิงไหวชิงพริบที่น่าติดตามสุดๆ เพราะวงรอบของการเล่นในช่วง 3 เดือนอยู่บนกรอบราคา 3.8-4.50 บาท “โมนิก้า” จึงขอชื่นชมเจ้ามือที่รักษาทรงหุ้นได้ค่อนข้างดี และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 3.82 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 287 ล้านบาท ก็เป็นระดับที่เตะตาเม่าดีเหลือเกิน เลยต้องเฮไปตามกันพะยะค่ะ

*เม้าถึงประเด็นล่อล่วงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปดูหุ้นแสบอย่าง EFORL กันสักหน่อย หลังทะยานขึ้นมาปิดที่ 0.20 บาท บวกไป 0.03 บาท หรือขึ้นไป 17.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 388 ล้านบาท ทั้งที่กำไรต่อหุ้นครึ่งปีแรกทำได้แค่ระดับ 0.003 บาท หรือพูดง่ายๆ ก็คือกำไรต่อหุ้นไม่ถึงสตางค์ ต่อจากนั้นนำมาคิดบัญญัติไตรยางค์ทางคณิตศาสตร์แบบเด็กประถม..คุณๆ ท่านๆ คงตีโจทย์ออกทันทีว่า รนหาที..อะป่าว?

*ประเด็นนี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอื้อนเอ่ยถึงหุ้น UKEM เป็นรายถัดมาแบบไม่ลังเลใจ เพราะเป็นหนึ่งในหุ้นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสงครามข่าว บวกกับที่ผ่านมามีสารพัดข่าวลือผุดเป็นดอกเห็ด จนสุดท้ายหุ้นโดนเทหนักแบบไม่มีเยื่อใย ส่งผลให้ราคาที่เคยยืนอยู่แถว 4.80 บาททรุดฮวบลงมาต่อเนื่อง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 2.50 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 333 ล้านบาท โดยใช้เวลาแค่ 4 วันลงเกือบ 50% แบบนี้..เดี๊ยนคงไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ เจ้าค่ะ

*เมื่อสถานการณ์ไม่มีอะไรชัดเจน และเต็มไปด้วยข่าวลือมากมาย “โมนิก้า” คงต้องเตือนสติแฟนคลับที่ยังถือหุ้นไทยม้วย THMUI กันเสียที! เพราะเมื่อย้อนดูบรรทัดสุดท้ายมีตัวแดงเป็นเวลา 2 ปีติด และในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ก็มีตัวแดงอีกเช่นกัน เลยอยากให้ทุกคนประเมินการยืนปิดที่ 1.16 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 10.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 89 ล้านบาท มันสูงเกินไปสำหรับหุ้นที่ไม่มีพีอีหรือเปล่า?..ลองไปคิดกันดูนะคะ

*ส่วนรายที่เม้าท์กันสนั่นลั่นทุ่งว่า มีของดีมาโชว์อย่าง UPA ก็ไม่ได้เรื่อง..ไม่ได้ราว เหมือนที่แมงโม้เม้าท์ให้แซ่ดอีกเช่นกัน และเหตุผลดังกล่าวก็ทำให้ทุกคนระดมขายหุ้นไม่เลี้ยง! จนราคาหุ้นร่วง 2 วันติด แต่วานนี้มีการดันกลับแบบกั๊กๆ จนหุ้นยืนปิดที่ระดับ 0.35 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือบวกไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า งานเลี้ยงโต๊ะจีนลิงศาลพระกาฬจบแล้วกระมั่ง!!

Back to top button