1,550 เสร็จทุกที?

เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยพยายามสวนกระแสตลาดโลกด้วยการกระชากขึ้นแรงๆ ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่าผลงานออกมาไม่เหมือนกับที่แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ด!


* วันนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยพยายามสวนกระแสตลาดโลกด้วยการกระชากขึ้นแรง ๆ ทั้งที่เห็นกันทนโท่ว่า ผลงานออกมาไม่เหมือนกับที่แมงลือเม้าท์กันให้แซ่ด! “โมนิก้า” เลยรู้สึกขึ้นมาทันทีว่า การไปต่อสวย ๆ คงเกิดขึ้นลำบาก เพราะบริเวณ 1,550 จุดคือด่านหินที่ฝ่ายากเหลือเกิน บวกกับข้อมูลในช่วง 1 เดือนบอกอย่างชัดว่า  มีแรงขายทำกำไรออกมาตรงบริเวณนี้มากเหลือเกินเจ้าค่ะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้การยืนปิดที่ระดับ 1,551.87 จุด บวกไป 7.65 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 8.19 หมื่นล้านบาท จึงกลายเป็นจุดที่แฟนคลับต้องไตร่ตรองก่อนเริ่มปฏิบัติการเคาะขวา  เพราะโอกาสในการทำกำไรช่วงสั้นไม่เปิดกว้างเหมือนช่วงที่ดัชนีย่ำต๊อกแต๊กบริเวณ 1,510 จุด จึงกลายเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจสำหรับผู้เล่นตัวจริง และกองเชียร์ที่ช่วยลุ้นหน้ากระดานหุ้นน่ะสิ

* งานนี้สรุปได้ทันทีว่า หากตลาดหุ้นไทยไปต่อได้จริง ๆ ก็ถือเป็นโบนัสพิเศษสำหรับนักเล่น..หากไปต่อไม่ได้จากข่าวลบที่โถมใส่ไม่หยุดหย่อน ก็ถือเป็นบทเรียนพิเศษสำหรับคนคิดช้า “โมนิก้า” จึงต้องถามย้ำกับแฟนคลับขาลุยว่า ทุกครั้งที่ดัชนีขึ้นมาถึงบริเวณนี้เสร็จทุกราย! ยังเป็นวลีเด็ดที่ใช้ได้ดีกับสถานการณ์ตรงนี้ขนาดไหน? น้องโมอยากให้ทุกคนกลับไปคิดเป็นการบ้านนะคะ

* เหมือนกับการวิ่งขึ้นของหุ้นปูน SCC ท่ามกลางวงรอบใหญ่ยังเป็นไซด์เวย์ดาวน์ มันเป็นภาพที่ขัดกับความรู้สึกอย่างชัดเจน “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 416 บาท บวกไป 10 บาท หรือขึ้นไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาท น่าจะเป็นการซื้อกลับสั้น ๆ ไม่ได้หวังผลระยะยาว เพราะมองจากตัวแปรรอบด้านที่เกิดขึ้นเวลานี้ มันไม่มีปัจจัยไหนที่บอกให้รู้ว่า ต้องเล่นแบบแรลลี่น่ะสิ

* เช่นเดียวกับการเด้งขึ้นของ SAWAD ก่อนจะปิดที่ระดับ 67.50 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.60 พันล้านบาท ก็มีลักษณะคล้ายกับรายข้างต้นที่เกริ่นนำไว้ จึงต้องลุ้นกันว่า หุ้นจะไปได้ไกลแค่ไหน? เพราะในมุมของปัจจัยพื้นฐานไม่มีอะไรต้องวอรี่ แต่ในมุมของเทคนิคมีเรื่องต้องคิดเยอะนิดหนึ่ง เพราะมีเส้นแนวต้าน 200 วันขวางแถว 68.50 บาท และยังเจอเส้น 75 วันขวางไว้แถว ๆ 70.50 บาท มันจะไหวไหมล่ะ

* ส่วนรายที่กลับมาเล่นใหม่อย่างหุ้น COM7 กลายเป็นเรื่องวัดใจกองทุนจะกดขวาได้นานแค่ไหน? เพราะที่ผ่านมาไล่ราคากันแว๊บ ๆ ต่อจากนั้นก็เลิกเล่นเอาดื้อ ๆ แถมหลายคนมองว่า ผ่านจุดพีคของการทำธุรกิจมาแล้ว จึงอยากให้ขาลุยประเมินการยืนปิดที่ระดับ 67.25 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 5.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.23 พันล้านบาท ยังเหลือแก๊ปให้เล่นต่ออีกไหมล่ะจ๊ะ

* สำหรับรายที่หายหน้าไปนาน และกลับมาติดในกระดาน Most Active ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นอย่าง CRC กลายเป็นหุ้นที่สร้างเซอร์ไพรส์มาก ๆ ในมุมมองของน้องโม เพราะเป็นการวิ่งขึ้นท่ามกลางโควิดระบาดหนัก และยอดคนตายพุ่งแตะระดับ 300 รายต่อวัน ผสานกับไตรมาสล่าสุดก็ขาดทุนหนักเกินบรรยาย จึงอยากให้แฟน ๆ ประเมินการยืนปิดที่ 32 บาท  บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 992 ล้านบาท เว่อร์ไหมจ๊ะ

* อีกรายที่เริ่มเด้งให้เห็นแบบจะแจ้ง หลังจากค่อย ๆ ไหลลงเป็นเวลาเดือนครึ่ง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น HMPRO แบบไม่ลังเลใจ เพราะเมื่อดูจาก PE ย้อนหลัง 4 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่า หุ้นเทรดอยู่แถว ๆ 33 เท่า ขณะที่วานนี้หุ้นเทรดอยู่แค่ระดับ 29 เท่า จึงอนุมานได้ทันทีว่า การยืนปิดที่ 13.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 475 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อแน่ ๆ จึงน่าตามไปดูหุ้นตัวนี้กันสักหน่อย..อิอิอิ

* ตบท้ายกันที่ข่าวช็อควงการตลาดหุ้นไทยคือ TASCO ดันไปมีเอี่ยวเรื่องฟอกเงินที่อเมริกา และดูเหมือนเรื่องนี้จะมีหลักฐานเชื่อมโยงแบบดิ้นไม่หลุดเสียด้วย “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับถอยห่างจากหุ้นตัวนี้ในทันที เพราะของมันรู้กันอยู่แล้วว่า เที่ยวนี้อเมริกากัดไม่ปล่อยแน่ ๆ และการยืนปิดที่ระดับ 18.80 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 859 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นการลงรอบใหม่..ไม่เชื่อลองถาม “ชัยวัฒน์” ดูสิ!

Back to top button