Loca จากสตาร์ตอัพสู่ Forbes 100

“ทำเนียบ 100 บริษัทในเอเชียที่ต้องจับตา” ปรากฏว่าหนึ่งในนั้นมีบริษัท โลกา (Loca) บริษัทสตาร์ตอัพ สปป.ลาว ได้ขึ้นมาติดทำเนียบระดับโลก


ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา “แวดวงสตาร์ตอัพ” ของ สปป.ลาว เกิดการตื่นตัวอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์นิตยสาร Forbes มีการเผยแพร่เนื้อหาในหัวข้อ Forbes Asia 100 To Watch หรือ “ทำเนียบ 100 บริษัทในเอเชียที่ต้องจับตา” ปรากฏว่าหนึ่งในนั้นมีบริษัท โลกา (Loca) บริษัทสตาร์ตอัพ สปป.ลาว ติดอยู่ในรายชื่อดังกล่าวด้วย ถือเป็นธุรกิจขนาดย่อมแห่งแรกของสปป.ลาว ที่ได้ขึ้นมาติดทำเนียบระดับโลก

“ทำเนียบ 100 บริษัทในเอเชียที่ต้องจับตา” ถูกจัดทำโดยทีมงาน Forbes เอเชีย ด้วยคัดเลือกจากกิจการขนาดย่อมและบริษัทสตาร์ตอัพกว่า 900 บริษัทในเอเชีย ที่มีผลประกอบการเติบโตขึ้น ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และ Forbes จะตีพิมพ์รายละเอียดบริษัททั้งหมดดังกล่าว…ลงในนิตยสาร Forbes ฉบับเดือนสิงหาคม 2564 นี้ด้วย

จุดเริ่มต้นของ Loca เกิดขึ้นช่วงต้นปี 2561 โดยหนุ่มนักธุรกิจสายไอทีจาก สปป.ลาว ชื่อ “สุลิโย วงดาลา” มีการเปิดตัว “แอปพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่ Loca” ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง ประเดิมให้บริการพื้นที่แรก ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ปัจจุบันมีให้บริการอยู่ 3 แขวง คือ นครหลวงเวียงจันทน์ หลวงพระบาง และจำปาสัก ด้วยการดึงผู้ที่เป็นเจ้าของรถยนต์มาร่วมขับรถรับ-ส่งผู้โดยสารในรูปแบบ ride-hailing และได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

จากเดิมที่นักท่องเที่ยวและชาวต่างประเทศ ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ส่วนใหญ่อาศัยรถ “จัมโบ้” หรือรถจักรยานยนต์ต่อพ่วง แบบเดียวกับที่ในประเทศไทยนิยม เรียกกันว่ารถ “สกายแลป” นั่นเอง

ปัจจุบัน Loca มีรถในเครือข่ายที่ให้บริการอยู่ประมาณ 500 คัน แยกออกเป็นรถ 4 ประเภท คือ รถเก๋งขนาดปกติ, รถกระบะ (สามารถบรรทุกสินค้าได้จำนวนมาก), รถเก๋งขนาดใหญ่ (สำหรับให้บริการแก่ลูกค้าองค์กร) และรถ Loca Qute (แท็กซี่ออนไลน์ขนาดเล็ก) ขนาด 3 ที่นั่ง ไม่รวมคนขับ มุ่งเน้นเรื่องความประหยัดด้วยค่าบริการที่ต่ำกว่ารถประเภทอื่น เป็นรถประเภทล่าสุด โดย Loca เพิ่งเปิดตัวรถ Loca Qute เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

โดยปลายปี 2562 โมเดลธุรกิจของ Loca ถูกนำเข้าร่วมแข่งขันรายการ Mekong Innovative Startups in Tourism ที่กรุงเทพฯ โดยมีธุรกิจสตาร์ตอัพจากหลายประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเข้าร่วม และ Loca ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง มาแล้ว

การที่  Forbes เลือก Loca เข้ามาอยู่ในทำเนียบนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถปรับแผนการตลาด เพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 โดยตัดสินใจเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จากเดิมให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นหลักช่วง 2 ปีแรก และขยายฐานมาให้บริการแก่คนใน สปป.ลาว ด้วยจุดขายเรื่องความสะดวกและปลอดภัย และให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ที่ผ่านมา Loca สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้นักท่องเที่ยวต่างประเทศใน สปป.ลาว หดหายไปเกือบ 100% จากโควิด-19 นอกจากนี้รายได้ Loca เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบช่วงที่โควิด-19 ยังไม่ระบาด จากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ นั่นหมายถึงคน สปป.ลาวนั่นเอง

นี่ถือเป็นหนึ่งความภูมิใจของ “สตาร์ตอัพลาว” ที่ก้าวขึ้น Forbes Asia 100 To Watch และกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับวงการสตาร์ตอัพลาวสู่เวทีโลกต่อไป..

Back to top button