PTTEP กำไรลดทางเทคนิค

ไม่มีบริษัทใดในตลาดหุ้นไทยที่จะซึมซับผลสะเทือนในตลาดโลกมากและลึกเท่ากับ บริษัทตลาดต้นน้ำด้านพลังงานอย่าง PTTEP อีกแล้ว


ไม่มีบริษัทใดในตลาดหุ้นไทยที่จะซึมซับผลสะเทือนในตลาดโลกมากและลึกเท่ากับ บริษัทตลาดต้นน้ำด้านพลังงานอย่าง PTTEP อีกแล้ว

ในขณะที่การแพร่ระบาดในประเทศของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลต่อกำไรและรายได้ของบริษัทจดทะเบียนอื่น แต่ในไตรมาสสองที่ผ่านมา PTTEP กลับได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกที่ได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 66.9 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล

จุดเด่นดังกล่าว ที่ทำให้กำไรสุทธิของ PTTEP มีกำไรสวยงามเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากความต้องการน้ำมันดิบโลกที่เพิ่มขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ผสมกับคาร์เทลโดยพฤตินัยของโลกอย่างกลุ่ม OPEC+ ยังคงดำเนินนโยบายอย่างระมัดระวังได้ตัดสินใจปรับเพิ่มปริมาณการผลิตอย่างค่อยเป็นค่อยไป อุปทานยังคงมีโอกาสจะลดต่ำกว่าอุปสงค์ได้ในไตรมาส 3 ปี 2564 และอาจทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในระดับ 70-80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แม้ยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันจากความกังวลของการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ที่อาจส่งผลให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ที่รุนแรงขึ้น และจากความล่าช้าในการฉีดวัคซีนในบางประเทศ

ผลประกอบการในไตรมาส 2 ปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า สวนทางกับกำไรจากการดำเนินงานปกติได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 349 ล้านดอลลาร์ เกิดจากเหตุขัดข้องทางเทคนิคจากการที่มีความล่าช้าในส่วนของความคืบหน้าในการเปลี่ยนผ่านสิทธิการดําเนินการ (Transition of Operations) ของแหล่งเอราวัณในอ่าวไทย เนื่องจากบริษัทไม่สามารถเข้าพื้นที่เพื่อติดตั้งแท่นผลิตและท่อใต้ทะเลได้ตามแผนต่อจากบริษัทเดิมชื่อเชฟรอน ซึ่งส่งผลกระทบกับการผลิตก๊าซให้ได้ตามสัญญา

ความล่าช้าในการเข้าแทนที่สิทธิสัมปทาน ทำให้กำไรลดลง คาดว่าจะกลายเป็นผลบวกในไตรมาสถัด ๆ ไปในส่วนของค่าชดเชย จากการที่เจรจากับหน่วยงานรัฐอย่างต่อเนื่องในกรณีจะยอมรับเงื่อนไขการเข้าพื้นที่ของผู้รับสัมปทานปัจจุบัน เพื่อวางแผนให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด โดยอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบและจะพยายามเร่งการลงทุนในแหล่งอื่น ๆ ที่มีศักยภาพเพียงพอเพื่อชดเชยปริมาณการผลิตที่หายไปบางส่วน

ในขณะที่การเปลี่ยนผ่านสิทธิฯ ของแปลงแหล่งบงกช มีความคืบหน้าที่ดีและพร้อมส่งก๊าซธรรมชาติได้ตามข้อกำหนดในสัญญา

นอกจากนั้น ยังมีตัวเลขขาดทุนจากรายการที่ไม่ใช่การดำเนินงานปกติ 127 ล้านดอลลาร์ โดยหลังจากประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน

ในไตรมาสสองและสาม PTTEP ยังคงสามารถดำเนินงานตามกลยุทธ์ EXECUTE และ EXPAND อย่างต่อเนื่องในแหล่งสำรวจและขุดเจาะสำคัญเช่นได้แก่ โครงการซาราวัก เอสเค 410 บี ในมาเลเซีย ที่พบแหล่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ คาดว่าจะสามารถประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ได้ในช่วงปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566

บริษัทยังได้ค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติใหม่เพิ่มเติมในมาเลเซียจากหลุมสำรวจแรกของโครงการซาราวักเอสเค 438 ต่อเนื่องจากหลุมสํารวจในโครงการซาราวักเอสเค 417 และโครงการซาราวักเอสเค 405 บี ในไตรมาสที่ผ่านมา

สําหรับโครงการโอมาน แปลง 61 ที่บริษัทได้เข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้ประกาศเพิ่มกําลังการผลิตก๊าซธรรมชาติและคอนเดนเสทเป็น 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (MMSCFD) และ 69,000 บาร์เรลต่อวัน (BBL/D) ตามลําดับ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณการขายในครึ่งปีหลังสูงขึ้น

อัตรากําไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) ในระดับดีเยี่ยมของ PTTEP ที่เมื่อสิ้นไตรมาส 2 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 23,230 ล้านดอลลาร์  ในขณะที่มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 11,209 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าส่วนของผู้ถือหุ้น 12,021 ล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราส่วน D/E อยู่ในระดับต่ำที่ 0.34 เท่า สะท้อนให้เห็นถึงการมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งและสถานะการเงินที่มั่นคง

รายได้และกำไรปกติที่แข็งแกร่ง ผสมกับกำไรพิเศษที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ทำให้ราคาของ PTTEP ที่ร่วงลงมาใต้ระดับ 110 บาท ถือเป็นราคาที่ต่ำเกิน เพราะโบรกเกอร์ทุกสำนักชี้กันว่าสิ้นปีนี้ราคาน่าจะอยู่แถว 150 บาท

ช่วงห่างดังกล่าวน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ชอบของดีราคาต่ำยิ่ง เพราะกำไรในไตรมาสองที่ลดลงมาทางเทคนิคนั้น ยังไม่รวมกำไรจากการซื้อธุรกิจในราคาต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของโครงการโอมาน แปลง 61 และการตัดจําหน่ายสินทรัพย์ที่เกิดจากการสํารวจและประเมินค่าบางส่วนของโครงการสํารวจปิโตรเลียมในประเทศบราซิลสำหรับไตรมาส 1 ปี 2564 และงวดหกเดือน ปี 2564

ซื้อสะสมของดีอย่างนี้ ปลอดภัยกว่าซื้อหุ้นเน่า ๆ ที่ราคาหวือหวา แต่ผลประกอบการย่ำแย่ ต้องเอาวอร์แรนต์มาล่อใจชั่วคราว

ไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องเชื่อ

Back to top button