AJ แนวโน้มโตเด่น

มีการวิเคราะห์กันว่า AJ มีตำแหน่งในตลาดแผ่นฟิล์มที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในโลกที่ผลิตแผ่นฟิล์ม BO ครอบคลุมทุกชนิด


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ มีตำแหน่งในตลาดแผ่นฟิล์มที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งถือว่าเป็นผู้ประกอบการรายเดียวในโลกที่ผลิตแผ่นฟิล์ม BO ครอบคลุมทุกชนิด รวมถึงแผ่นฟิล์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร

โดยในปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มผู้ผลิตแผ่นฟิล์ม BOPP ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถึง 16% นอกจากนี้ในการสั่งเครื่องจักรผลิตแผ่นฟิล์มปัจจุบันใช้เวลาถึง 40 เดือน ทำให้มองว่าช่วยลดการแข่งขันและโอกาสการเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหม่ในอนาคต อีกทั้งยังเป็นปัจจัยหนุนราคาขายแผ่นฟิล์มของบริษัทอีกด้วย

ส่วนแผนขยายกำลังการผลิต & JV ในเวียดนามกับ SCG Chemicals บริษัทเตรียมเริ่มดำเนินการในปี 2565 ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานในประเทศแห่งที่ 2 และเตรียมขยายกำลังการผลิตต่อเนื่องในปี 2565 โดยมีแผนขยาย 3 สายการผลิตใหม่ในกลุ่มแผ่นฟิล์ม Metallized, BOPP, และ BOPET

สำหรับผลดังกล่าวทำให้บล เคทีบีเอสที ประเมินกำลังการผลิตของบริษัทในปี 2565 จะเพิ่มราว 11% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และปี 2566 จะเพิ่มขึ้นราว 21% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยจากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 263,500 ตันต่อปี สำหรับ JV ในเวียดนามที่บริษัทจัดตั้งร่วมกับ SCG Chemicals คาดจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์แผ่นฟิล์ม BOPP ได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เช่นกัน

อีกทั้งมีมุมมองบวกโดยนอกเหนือจากประโยชน์ทางด้านห่วงโซ่อุปทานแล้ว ซึ่งมองว่าการจับมือดังกล่าวยังเป็นการเปิดโอกาสในการขยายสู่ตลาดประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียนร่วมกันในอนาคต

ทั้งนี้ ประเมินกำไรปกติ ซึ่งไม่รวมรายการพิเศษ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน สำหรับในปี 2564 อยู่ที่ 693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 2565 อยู่ที่ 797 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยจากรายได้เพิ่มขึ้น 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยภาคการบริโภคที่ฟื้นตัว รวมถึงในปี 2565 คาดจะได้ปัจจัยหนุนจากแผนขยาย 3 สายการผลิตใหม่และการเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ของ JV ในเวียดนาม

พร้อมกับอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นในปี 2564 เป็น 13.8% และในปี 2565 เป็น 14.5% จากปี 2563 อยู่ที่ 13.5% ตามอุปสงค์ที่ยังดีต่อเนื่อง และต้นทุนเม็ดพลาสติก PP ที่ลดความผันผวนลงและเข้าสู่ระดับ normalized มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ท้ายสุดแล้วแนวโน้มของ AJ จากตำแหน่งในตลาดแผ่นฟิล์มที่แข็งแกร่งมาก ขณะที่มีแผนขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง ด้านการจับมือกับ SCG Chemicals จะช่วยเปิดทางโอกาสขยายตลาดประเทศอื่น ๆ ร่วมกันในอนาคต รวมทั้งประเมินกำไรปกติในช่วง 2 ปีข้างหน้าจะอยู่ในทิศทางขยายตัวเพิ่มขึ้น 28% เฉลี่ยปี 2563-2565 และ valuation น่าสนใจมาก เทรดที่ปี 2565 PER เพียง 11 เท่า

ดังนั้น ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ประเมินราคาเป้าหมายที่ 27.00 บาท

….

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. นายกิตติภัต สุทธิสัมพัทน์ 106,814,054 หุ้น 24.28%
  2. นายภูมิพันฉัตร สุทธิสัมพัทน์ 46,426,666 หุ้น 10.55%
  3. บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด 40,560,773 หุ้น 9.22%
  4. นายณรงค์ สุทธิสัมพัทน์ 29,880,000 หุ้น 6.79%
  5. นายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล 22,558,700 หุ้น 5.13%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายณรงค์ สุทธิสัมพัทน์ ประธานกรรมการ
  2. นายกิตติภัต สุทธิสัมพัทน์ รองประธานกรรมการ, กรรมการผู้จัดการ
  3. นางนภาพร สุทธิพงษ์ชัย รองประธานกรรมการ
  4. นายสุพจน์ โทนุรัตน์ กรรมการ
  5. นายศักดิ์ชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กรรมการ

Back to top button