AMA เติมห่วงโซ่ธุรกิจ

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังโควิดเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับเกิดปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ก็เลยเป็นจังหวะทำเงินของกลุ่มโลจิสติกส์


ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มโลจิสติกส์กลายเป็นหุ้นที่ขึ้นหม้อสุด ๆ ได้รับความนิยมจากนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรกันคึกคัก และแสวงหาแคปปิตอนเกน อาจเป็นเพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังโควิดเริ่มคลี่คลาย ประกอบกับเกิดปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ก็เลยเป็นจังหวะทำเงินของกลุ่มโลจิสติกส์…

แต่ในระหว่างนี้ก็มีหลายบริษัทที่ขยับเขยื้อนไปแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ หนึ่งในนั้นคือ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ของกลุ่ม “รัชกิจประการ” ก็มีการขยับขยายเช่นกัน ด้วยการส่งบริษัทลูก บริษัท เอ เอ็ม เอ โลจิสติกส์ จำกัด (AMAL) ไปลงทุนในสองบริษัทโลจิสติกส์ด้านการขนส่งก๊าซ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ และขนส่งรถยนต์ เพื่อต่อยอดธุรกิจขนส่งให้มีความหลากหลายมากขึ้น…

ธุรกรรมดังกล่าว แบ่งเป็นการซื้อหุ้น 76% ในบริษัท ทีเอสเอสเค โลจิสติกส์ จำกัด (TSSK) ซึ่งทำธุรกิจขนส่งก๊าซ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ เช่น ขนส่งเม็ดพลาสติก และสินค้าปิโตรเคมี มูลค่า 273 ล้านบาท และซื้อหุ้น 76% ในบริษัท ออโต้ โลจิส จำกัด (AUTO) ทำธุรกิจขนส่งรถยนต์ มูลค่า 30 ล้านบาท

โดยการซื้อหุ้นทั้งสองบริษัทเป็นการซื้อจากผู้ขายกลุ่มเดียวกัน คือ บริษัท ปาล์ม คอมเมิร์ช โฮลดิ้ง จำกัด รวมมูลค่าราว 304 ล้านบาท

ประเด็นที่น่าสนใจ…AMA ซึ่งเดิมให้บริการขนส่งน้ำมันปาล์มทางทะเล ส่วนทางบกจะเป็นการขนส่งไบโอดีเซลให้กับเครือข่ายปั๊ม PT เป็นหลัก ต่อไปก็จะมีทั้งบริการขนส่งก๊าซ ขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งปิโตรเคมี เม็ดพลาสติก ผ่าน TSSK ก็จะทำให้มีความหลากหลายของสินค้ามากขึ้น จากเดิมมีแค่น้ำมันปาล์ม และไบโอดีเซล…

สิ่งที่ตามมาจะทำให้ได้ในแง่ของอีโคโนมีออฟสเกล ช่วยประหยัดต้นทุนต่อหน่วย และมีบริการที่ครอบคลุม ทำให้มีอำนาจต่อรองที่มากขึ้น

ส่วนการได้ AUTO เข้ามานั้น ก็จะทำให้ AMA มีกองรถยนต์มากขึ้น ทำให้มีความพร้อมในแง่การขนส่งมากขึ้นตามไปด้วย

ขณะที่ไปดูผลประกอบการของ TSSK และ AUTO ก็ไม่ขี้เหร่นะ ยังมีกำไรติดปลายนวมอยู่บ้าง แม้จะไม่มากก็ตาม…

โดย TSSK ปี 2562 มีรายได้ 282 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 2 ล้านบาท ปี 2563 มีรายได้ 306 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 13 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 (สิ้นสุด 28 ก.พ. 2564) มีรายได้ 307.45 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.4 ล้านบาท

ฟาก AUTO ปี 2561 มีรายได้ 83 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้ 67 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3 ล้านบาท และปี 2563 มีรายได้ 50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1 ล้านบาท

ซึ่ง AMA สามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ทันที…

ก็เป็นอีกแนวทางในการโตแบบอินออร์แกนิค ด้วยการไปเทคกิจการหรือ M&A เพื่อเติมห่วงโซ่ธุรกิจของ AMA ให้มีความครบครันมากขึ้น..!!

อ้อ…ที่เห็นทั้ง 2 บริษัทมีมาร์จิ้นบ๊างบาง อาจเป็นเพราะยังบริหารจัดการต้นทุนได้ไม่ดีนัก แต่หลังจากเข้ามาอยู่ภายใต้ชายคา AMA ก็น่าจะทำผลงานได้ดีขึ้น และคงช่วยอัพแวลูให้กับ AMA ในอนาคตได้ไม่ยาก…

แต่ถ้าใครอยากให้หมอลักษณ์ฟันธง…อุ๊ย กลุ่ม “รัชกิจประการ” คอนเฟิร์ม ต้องไปกระซิบถามกันเองแล้วล่ะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button