รัชกิจประการ

ที่ผ่านมา จะเห็นว่ากำไรของหุ้นปั๊มอย่างบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ของ “กลุ่มรัชกิจประการ” ค่อนข้างสวิงสวาย บางปีรายได้แสนล้านบาท แต่กำไรสุทธิระดับพันล้านบาทเศษ ในขณะที่บางปีกำไรลดวูบเหลือไม่ถึงพันล้านบาทเสียด้วยซ้ำ ปัจจัยหลักน่าจะเป็นผลมาจากค่าการตลาดที่มักถูกกดให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่เสมอ ๆ... ทำให้แทนที่จะเห็นกำไรโตก้าวกระโดด...เหลือกำไรแค่หางอึ่งเท่านั้น กลายเป็นโจทย์ทางธุรกิจที่ทำให้ PTG ต้องหันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจ Non-oil มากขึ้น... โอเค...แม้มูลค่าต่อหน่วยอาจไม่สูงมากเมื่อเทียบกับการขายน้ำมัน แต่สิ่งที่จะสูงกว่า นั่นคือมาร์จิ้น..!! ในช่วง 4-5 ปีมานี้ จึงเห็น PTG ขะมักเขม้นกับการปั๊มพอร์ต Non-oil อย่างหนัก เพื่อหวังสร้างมูลค่าเพิ่มปั๊ม PT ให้เป็นมากกว่าปั๊มน้ำมันทั่ว ๆ ไป หรือกลายเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดย่อม ๆ โดยมีเป้าหมายที่ต้องพุ่งชน จะเพิ่มสัดส่วน Non-oil เป็น 50% ภายในปี 2569..!! จึงไม่น่าแปลกใจที่ภายในปั๊ม PT มีร้านค้าที่หลากหลายขึ้น เช่น บางสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะมีร้านกาแฟพันธุ์ไทย บางสาขามีร้านคอฟฟี่เวิลด์ ร้านสะดวกซื้อ Max Mart และศูนย์ซ่อมแซม Autobacs ส่วนสาขาที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยว ก็มีร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร หรือมีร้านแก๊ส LPG ในสาขาที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน เป็นต้น เกิดเป็นระบบนิเวศภายในปั๊ม PT..!! เอ๊ะ...PTG เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านกาแฟดังตั้ง 2 แบรนด์ คือ ร้านกาแฟพันธุ์ไทย กับร้านคอฟฟี่เวิลด์ แต่ดูเหมือนยังขาดเบเกอรี่กินคู่กับกาแฟนะเนี่ย... อ้อ...ถ้าใครจะเถียงว่า ก็เห็นมีเบเกอรี่ขายอยู่นะ อันนั้นคงเป็นในลักษณะรับแบรนด์อื่นมาขายมากกว่ามั้ง..?? แต่ต่อจากนี้คงมีแบรนด์ของตัวเองขายแล้วล่ะ เพราะล่าสุดเตรียมจะเสิร์ฟเบเกอรี่ภายในปั๊ม PT ด้วยการส่งบริษัทหลานที่ชื่อบริษัท จิตรมาส จำกัด หรือ JTC (ถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัท แอลไพน์ ออยล์ จำกัด หรือ APO) ไปจับไม้จับมือกับบริษัท โฮลเกนกรุ๊ปส์ จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนที่ชื่อ บริษัท โฮลเกน จำกัด (WG) เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหาร เบเกอรี่ เพสสตี้ และสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวมีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โครงสร้างการถือหุ้นแบ่งเป็น “จิตรมาส” ถือหุ้น 54.99% ส่วน “โฮลเกนกรุ๊ปส์” ถือหุ้น 40% และถือในนามบุคคลที่ชื่อ “กิตต์ธีธัช ก้องภพจิรพัฒน์” อีก 5% ก็จะทำให้ระบบนิเวศภายในปั๊ม PT ครบเครื่องขึ้นอีกนิ๊ดดด..!! ขณะที่ไปส่องโปรไฟล์ของ “โฮลเกนกรุ๊ปส์” เป็นบริษัทที่คลุกคลีอยู่กับธุรกิจเบเกอรี่มากว่า 10 ปี ในฐานะเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และสินค้าเบเกอรี่ครบวงจร จำหน่ายสินค้าครัวซองต์และเบเกอรี่แช่แข็งพร้อมทาน วัตถุดิบเบเกอรี่นำเข้าและอุปกรณ์เบเกอรี่ “One stop service bakery solution” ซึ่งมีพันธมิตรที่แข็งแรงทั้งในและต่างประเทศ มีจำนวนสาขามากกว่า 1,000 สาขา ปัจจุบันมี 2 โรงงานผลิตสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า เท่ากับว่าการเสิร์ฟเบเกอรี่ของ PTG ครั้งนี้ไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่อาศัยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งของพันธมิตรมาช่วยสร้างฐานการเติบโตให้มั่นคง ก็น่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากละมั้ง..!? แหม๊...ชักอยากไปนั่งจิบกาแฟในร้านกาแฟพันธุ์ไทย แล้วสั่งเบเกอรี่ของ PTG มาชิมสักชิ้นว่าจะอร่อยล้ำแค่ไหน..?? ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของ PTG... ว่าแต่นี่ผ่านมาแค่ 3 เดือนเองนะ แต่ PTG รุกขยาย Non-oil ไปแล้ว 3 ดีล ไล่มาตั้งแต่การเข้าลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการขยะและผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) ผ่านบริษัท ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด ตามด้วยการทุ่มงบลงทุน 35 ล้านบาท เพื่อซื้อสิทธิบริหารแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง “Subway” และดีลล่าสุดเตรียมลงทุนในธุรกิจเบเกอรี่ แต่ PTG คงไม่หยุดแค่นั้นหรอก น่าจะขยับไปลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ เพิ่มเติมแหละ...เชื่อขนมกินได้เลย ส่วนเป้าหมายที่หมายมั่นปั้นมือ ภายในปี 2570 อยากให้ธุรกิจ Non-Oil มีกำไรมากกว่าธุรกิจน้ำมันนั้น... โอเค...วาดฝันได้ แต่ฝันจะเป็นจริงหรือเปล่า..? ก็อีกเรื่องหนึ่งนะ ว่าไปแล้ว PTG ก็ขยันสร้างสตอรี่นะ แต่ทำไม๊ทำไมหุ้นไม่ค่อยตอบสนองเอาซะเลย...หรือจะตายด้านไปแล้วป๊ะเนี่ย..!!?? ...อิ อิ อิ...