เคลื่อนตัวทางชนชั้น

ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนถูก ส.ว. และ ส.ส.พรรครัฐบาลรุมถล่มในสภาที่ตั้งมาโหวตตู่เป็นนายกฯ ว่ายกเลิก ส.ว. จะเป็นเผด็จการโดยสภาผู้แทน


ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ของกลุ่ม Resolution ถูก ส.ว. และ ส.ส.พรรครัฐบาลรุมถล่มในสภา รู้แหละว่ายังไงก็ไม่ผ่าน แต่โดยกระบวนการก็ประจานพวก “อย่างหนา” เช่น 250 ส.ว.ที่ประยุทธ์ตั้งมาโหวตตู่เป็นนายกฯ กลับหาว่ายกเลิก ส.ว. จะเป็นเผด็จการโดยสภาผู้แทน

ตลกร้ายคือ ส.ส.จากเลือกตั้งหลายราย กลับปกป้อง ส.ว.แต่งตั้ง ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ ที่มีไว้กดหัวเล่นงานอำนาจที่ประชาชนเลือกมา ซึ่งพูดภาษาพ่อขุนคือ “พวกมึงนั่นล่ะ” อยากรู้จังว่าจะกลับไปหาเสียงอย่างไร

“พ่อแม่พี่น้องครับ พวกมาจากเลือกตั้งอย่างพวกผมมันชั่ว เพราะพ่อแม่พี่น้องจนโง่ถูกซื้อถูกหลอก เลือกคนชั่วคนเลวคนไม่มีคุณภาพเข้าไป จึงต้องตั้ง ส.ว.จากทหารจากข้าราชการมาคุมไว้ ต้องให้องค์กรเทวดามาไล่จับผิด”

อันที่จริง ส.ส.รัฐบาลจำนวนมากเก็บปากเก็บคำ ส.ส.ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ (ที่ดูดจากเพื่อไทย) คงคิดว่าเถียงแทน ส.ว.ก็กระดาก กลายเป็นประชาธิปัตย์กับอดีตประชาธิปัตย์ตีฝีปาก

ชินวรณ์ บุณยเกียรติ พูดเหมือนกับ วิษณุ เครืองาม ประชาธิปไตยไทยไม่เคยมีสภาเดียว เว้นแต่ยุคเผด็จการทหารตั้ง สนช. นี่มันใช้ตรรกะวิบัติแบบไหนกัน

น่าสังเกตว่านักการเมืองที่กระเหี้ยนกระหือ บดขยี้ “สามกีบ” ปกป้อง 112 ต้านยกเลิก ส.ว. กลายเป็น “เถาถั่ว” ปชป. ทั้งแกนนำพรรค โฆษกพรรค และอดีตแกนนำอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ, พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค (ที่ปรึกษา พปชร.) หมอวรงค์ ไทยภักดี และ พรรคกล้า ที่มุ่งแข่ง ปชป. ว่าใครจะขวากว่า

แต่พอย้อนดู Resolution ก็ไม่ได้มีแค่ปิยบุตร ก้าวหน้าก้าวไกล ในนั้นมี “ไอติม” หลานอภิสิทธิ์, ฟูอาดี้ ลูกสุรินทร์ พิศสุวรรณ, ธิษะณา ลูกสาวไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ เมื่อมองกว้างไปอีก อดีต New Dem อย่างลูกนัทก็ชูสามนิ้วเต็มตัว

นี่บอกอะไร มันบอกว่าประชาธิปัตย์กำลังสูญเสียสถานะพรรคคนชั้นกลางในเมือง เหลือแต่คนรุ่นเก่า (ซึ่งเลือกคลองโอ่งอ่างมากกว่า) คนชั้นกลางใหม่ไหลมาทางก้าวไกล หรือภายหน้าอาจเกิดพรรคที่ “ทะลุฟ้า” น้อยกว่า แต่ไม่อนุรักษ์เท่า ปชป.หรือพรรคกล้า

ที่บอกว่าคนชั้นกลางในเมือง คือไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่ Gen-Y Gen-Z แม้แต่คน Gen-X ก็เหลือทนระบอบประยุทธ์มากขึ้นทุกวัน คนเหล่านี้อาจไม่ถึงขั้นไปม็อบ แต่ก็สุดจะรับฟังถ้อยแถของ ส.ว. ส.ส.ในสภา เหนื่อยหน่ายกับรัฐล้มเหลว รัฐราชการไร้ประสิทธิภาพ แม้มีภาระต้องทำมาหากิน อยู่ในสถานะ “พลังเงียบ” มากกว่า

ที่ประวิตรบอกว่าม็อบมีแค่ 2-300 คนไทยมี 70 ล้านคน จึงไม่จริงทั้งตัวเลขและพลัง ถ้าย้อนถ้อยคำก็ต้องบอกว่า พปชร.ได้คะแนนเลือกตั้งแค่ 8 ล้านกว่าจาก 35 ล้าน น้อยกว่าฝ่ายไม่เอาประยุทธ์ 2 เท่า เอา 70 ล้านมาพูดทำไม

ม็อบหลายหมื่นคนเป็นหัวหอกคนชั้นกลางรุ่นใหม่ และตัวแทนเสื้อแดง ซึ่งมีคนหนุนคนมีอารมณ์ร่วมอีกหลายล้าน บางส่วนอาจไม่เห็นด้วยทั้งหมด แต่ก็ไม่พอใจรัฐบาล และอึดอัดกับอำนาจรัฐอนุรักษนิยมมากกว่า

เครือข่ายอนุรักษ์คุมอำนาจไว้หมด ทหารตำรวจกระบวนการยุติธรรมองค์กรอิสระ เหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น ใต้ความคิดสุดโต่ง มุ่งบดขยี้คนรุ่นใหม่

แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากยุคหลังรัฐประหาร 49 หรือพฤษภา 53 คือความเปลี่ยนแปลงของคนชั้นกลางในเมือง ที่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศหรอก แต่มีพลังทางเศรษฐกิจ ทางสังคม พลังทางความคิด

ยกตัวอย่างเปรียบเทียบ เช่นม็อบปฏิรูปสถาบัน คนรุ่นใหม่เข้าร่วมกว้างขวาง คนชั้นกลางส่วนใหญ่อาจไม่เห็นด้วยทั้งหมด แต่พอฟังพวกขวาคลั่งปลุกระดม หรือเห็นการใช้ “กฎหมายอำมหิต” ก็สะอิดสะเอียน รับไม่ได้มากกว่า

อำนาจรัฐสุดโต่งไม่ตระหนักว่า คนชั้นกลางเคลื่อนตัวออกห่างแล้ว ขณะที่คนชนบทอย่างเสื้อแดงก็เอาอำนาจจากเลือกตั้งมาตั้งนานแล้ว

Back to top button