เลิกแพนิก

คำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า รัฐจะตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 28 บาท และกลายเป็นว่า วันก่อนดันประกาศปรับขึ้นราคาดีเซลอีก 0.15 บาทต่อลิตรหน้าตาเฉยเจ้าค่ะ


* ประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากหยิบยกขึ้นมาเม้าท์มากกว่าเรื่อง “ตลาดหุ้น” ภายใต้อิทธิพลไวรัส “โอ้มายก๊อด” ก็คงเป็นเรื่องของ เฮีย.ส ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ของรัฐบาลที่รับผิดชอบเรื่องราคาน้ำมันโดยตรง และชายร่างท้วมกลายเป็นที่เม้าท์ถึงอีกครั้งเพราะคำสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า รัฐจะรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 28 บาท และกลายเป็นว่า วันก่อนดันประกาศปรับขึ้นราคาดีเซลอีก 0.15 บาทต่อลิตรหน้าตาเฉยเจ้าค่ะ

* การขึ้นราคาดังกล่าวเป็นเรื่องที่ชาวบ้านกับขาเผือกหยิบขึ้นมาเม้าท์แบบอื้ออึง จนกลายเป็นเรื่องที่สังคมคาใจแบบสุด ๆ ผนวกกับราคาน้ำมันในตลาดโลกวันก่อนก็ต่ำกว่า 70 เหรียญต่อบาร์เรล เลยไม่เข้าใจเหตุผลที่ต้องขึ้นราคาน้ำมันในสถานการณ์แบบนี้ พร้อมกับมีการจับโยงเป็นตุเป็นตะว่า ทำไมเฮียถึงกล้าพลิ้วในช่วงที่คะแนนนิยมของรัฐบาลถดถอยลงเรื่อย ๆ ล่ะจ๊ะ

* งานนี้บอกได้เลยว่า ไม่มีใครอ่านใจเฮียออก เพราะตั้งแต่ที่เข้ามารับตำแหน่ง ก็ไม่เห็นทำอะไรที่โดนใจชาวบ้านสักอย่าง แถมผลงานที่ทำให้รู้สึกปลื้มปริ่มก็แทบจะนับชิ้นได้ อีกทั้งม็อบสวนปาล์มก็จะยกโขยงมาทวงถามความเป็นธรรม หลังตกเป็นจำเลยสังคมโดยที่เฮียไม่พูดถึงโครงสร้างราคาน้ำมันสามารถลดลงอีกได้ หากสรรพสามิตยอมลดภาษีลงไปในระดับที่ประชาชนได้ประโยชน์นะจะบอกให้

* ตรงนี้เป็นเรื่องราวที่อยากบอกให้ทุกคนรู้ว่า หากราคาน้ำมันขยับขึ้นอีก ย่อมสร้างแรงสั่นสะเทือนกับ เฮีย.ส อย่างมีนัยสำคัญ และโชคดีมาก ๆ ที่วานนี้มีการประกาศลดราคาน้ำมันดีเซลลง 0.40 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลวันนี้ขายที่ 27.84 บาทต่อลิตร ผสานกับนักลงทุนเลิกแพนิกไวรัสมฤตยูพอดี ดัชนีเลยเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,590.81 จุด บวกไป 22.12 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.38 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ทำให้นักลงทุนมีความฮึกเหิมอีกครั้งเจ้าค่ะ

* เหมือนกับการเด้งขึ้นของหุ้น PTT ท่ามกลางความเชื่อที่ว่า ราคาหุ้นลงเยอะเกินไป และผลงานก็ยังไปได้สวย มันคือแรงหนุนที่จะทำให้หุ้นวิ่งกลับไปแถว 40 บาทอีกครั้งนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นแนวความคิดที่ถูกต้องทุกประการ และเห็นด้วยที่หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 36.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.34 พันล้านบาท เพราะการเทรดบน PE 11 เท่า มันเป็นระดับที่ต่ำเกินไปน่ะซี

* ส่วนรายที่เล่นกับเกมอนาคตอย่าง TRUE ก็เป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเล่นสั้นเต็มตัว เพราะเนื้อหาสาระที่จะเห็นเป็นรูปธรรมต้องรอถึงไตรมาส 1 ปีหน้า “โมนิก้า” เลยเม้าท์ได้แค่ว่า การยืนปิดที่ระดับ 4.60 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาท ไม่ใช่ระดับที่สูงเกินไปในความคิดของสายบู๊ จึงกลายเป็นจังหวะของการ follow buy ไปโดยปริยายพะยะค่ะ

* ในเมื่อต้องตามกระแสกันทั้งที “โมนิก้า” เลยมองไปที่หุ้น ECL เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมายืนปิดที่ 2.34 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 15.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 361 ล้านบาท มันเป็นการขึ้นปิดที่ยอดเดิมเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว จึงต้องเดาสถานการณ์ให้ออกว่า วันนี้จะสร้างสถิติใหม่ได้อ่ะป่าว? เพราะเที่ยวก่อนก็ขึ้นมาถึงตรงนี้ ต่อจากนั้นก็รูดลงไปกองแถว ๆ 1.60 บาท..จำได้บ่!

* สำหรับรายที่มาพร้อมกระแสบิตคอยล์คงมองไปที่หุ้น FSS หลังเตรียมตัวลุยธุรกิจเต็มตัวในปีหน้า บวกกับสรรพกำลังก็พร้อมกระโจนใส่สุด ๆ จึงกลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่น่าจับตาดูเป็นอย่างยิ่ง หุ้นเลยเด้งรับข่าวด้วยการขึ้นมาปิดที่ 5.10 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 15.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 477 ล้านบาท และมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะขยับขึ้นไปอีก เพราะกระแส ICO มาแรงเหลือเกินเจ้าค่ะ

* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นตัวแรงที่เดินหน้าทำนิวไฮเป็นว่าเล่นอย่าง FORTH เพื่อย้ำหัวหมุดให้ทุกคนรู้ว่า การกระโจนเข้าไปอยู่ในธุรกิจกำไลอีเอ็ม มันคือบ่อเงินบ่อทองที่ส่งผลให้แวลูเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 21.90 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 240 ล้านบาทแบบนี้..บอกได้เลยว่า มีลุ้นไปต่อยาว ๆ นะจ๊ะ

Back to top button