‘เขย่าหนัก’ หวัง ‘เอาของ’

ตอนแรก “โมนิก้า” คิดว่า ดัชนีจะลงมาถึงจุดนัดพบบริเวณแนวรับ 1,650 จุด เพื่อเปิดช่องให้กับนักเล่นแฟนพันธุ์แท้ได้เก็บของดีราคาถูก


*ตอนแรก “โมนิก้า” คิดว่า ดัชนีจะลงมาถึงจุดนัดพบบริเวณแนวรับ 1,650 จุด เพื่อเปิดช่องให้กับนักเล่นแฟนพันธุ์แท้ได้เก็บของดีราคาถูก แต่เอาเข้าจริงกลับมาแค่ระดับ 1,654.52 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นไปอย่างช้า ๆ พร้อมกับแกว่งตัวไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะทิ้งตัวลงมาในช่วงหนึ่งชั่วโมงสุดท้าย ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,653.03 จุด ลบไป 23.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 แสนล้านบาท เลยรู้ได้ทันทีว่า นี่เป็นยุทธวิธี “เขย่าเอาของ” ในจังหวะที่ดัชนีขึ้นอย่างร้อนแรงมาพักหนึ่งนะคะ

*ผสานกับจังหวะนี้มีความกังวลเกี่ยวกับ “เฟดขึ้นดอกเบี้ย” และการแพร่ระบาดของ “โอมิครอน” จึงกลายเป็นชนวนเหตุที่ทำให้การเขย่าหุ้นเที่ยวนี้เกิดอารมณ์ร่วมในทันที ซึ่งเป็นเกมถนัดของนักเล่นที่นิยมเรื่องเดย์เทรด เพราะเพิ่มวงรอบเล่นในแต่ละวันได้เยอะขึ้น “โมนิก้า” จึงต้องถามแฟนคลับขาประจำว่า ยังมองตลาดหุ้นไทยในมุมบวกหรือเปล่า? และมองเศรษฐกิจต่อจากนี้จะดีขึ้นไหม? เจ้าค่ะ

*เนื่องจากตัวแปรทั้งสองอย่างจะเป็นตัวชี้ขาดว่า นักเล่นควรซื้อหุ้นไหม? ขณะเดียวกันก็ชี้ให้เห็นพฤติกรรมของนักเล่นกลุ่มกองทุนยังยึดแนวทางเข้าทำเร็วเหมือนเดิมไหม “โมนิก้า” ถึงมองสถานการณ์ตลาดหุ้นตอนนี้เป็นเกมวัดใจรายย่อยอย่างแท้จริง เพราะพี่ท่านแสดงพลังด้วยการทุบหุ้นใหญ่ไม่เลี้ยง ซึ่งสวนทางกับหุ้นกลางเล็กที่ร่วมกันโชว์แสงอย่างตื่นเต้นแบบนี้ เดี๊ยนไม่สามารถมองเป็นเรื่องอื่นได้จริง ๆ พะยะค่ะ

*ในเมื่อหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่นถูกเล่นจนช้ำไปหมดแล้ว จึงกลายเป็นการเปิดโอกาสให้หุ้นหน้ามนอย่าง SNNP ขึ้นมาวาดลวดลายกับเขาบ้าง บวกกับทุกคนเข้ามาตะลุมบอนไม่ยั้งมือ หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.40 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 16.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.35 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time high ไปแบบชิว ๆ หลังเข้าตลาดหุ้นมา 5 เดือนครึ่งแบบนี้ จึงมีความเป็นไปได้ที่วันนี้จะเล่นกันต่อ เพราะตัวเลขไตรมาส 4 น่าจะสวย แถมไตรมาส 1 ก็มีโปรดักส์ใหม่เข้ามาเสริมน่ะซี

*ส่วนรายที่หงอยเหงาไปนานอย่าง BCH ก็กลับมาทวงบัลลังก์หุ้นโรงหมอยอดนิยมด้วยการพุ่งขึ้นมาปิดที่ 20.90 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 6.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.81 พันล้านบาท ซึ่งเป็นความคึกคักที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบเดือนครึ่งแบบนี้ ย่อมทำให้นักเล่นคาดหวังจะได้เห็นการเคาะขวาหนัก ๆ ต่อไปอีกหนึ่งวัน เพราะเมื่อดูจากราคาเป้าที่บรรดาโบรกเกอร์ให้ไว้ก่อนหน้านี้ ยังมีแก๊ปให้วิ่งอีกเยอะเลยทีเดียว..ส่วนเรื่องจริงจะเป็นเหมือนที่คิดแค่ไหน? ก็ต้องดูกันต่อไปนะนายจ๋า

*สำหรับรายที่หมดรอบอย่างชัดเจน และกำลังโดนชำเราตลอดเวลาอย่าง HANA กลายเป็นมุมหักเหที่นักเล่นต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง! เพราะสถานการณ์ของราคาหุ้นไม่น่าไว้ใจเลยจริง ๆ วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 82.50 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.21 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งแบบนี้ ภาษาวัยรุ่นเขาเรียกอาการแบบนี้ว่า เก็บทรงไม่อยู่นะคะ

*ส่วนรายที่ฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ และมีแรงซื้อไหลเข้ามาเป็นระยะอย่าง WINMED ถือเป็นช็อตเด็ดที่รายย่อยต้องตามดูใกล้ๆ เพราะการมาของโอมิครอนทำให้ยอดขาย ATK พุ่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผนวกกับผู้คนในแวดวงเครื่องมือแพทย์รู้ดีว่า ไตรมาส 4 และไตรมาส 1 เป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ จึงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า รอบนี้น่าจะมีโอกาสขึ้นหาเป้า 7.80 บาทค่อนข้างสูง และทำให้ราคาปิดที่ 6.35 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาทเล่นได้จ้า!

*สำหรับรายย่อยที่ชอบหุ้นในสไตล์เรียบ ๆ และธุรกิจกำลังรอชู้ตอีกครั้งในไม่ช้านั้น “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ไปดูหุ้น CPANEL ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนระยะกลาง เพราะการที่ภาครัฐและภาคเอกชนมีโปรเจกต์ใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ย่อมส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เดี๊ยนถึงมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 7.90 บาท ลบไป 0.05 บาท น่าจะมีดาวน์ไซด์ต่ำแล้วนะจ๊ะ

*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเก็บตกความเฉียบขาดในการทำงานของ ก.ล.ต. ยุคนี้สักหน่อย เพราะหลังจากลงดาบผู้บริหารโบรกเกอร์ที่เปิดช่องให้ต่างชาติทุบหุ้นไทย (ไม่มีหุ้นอยู่ในมือ แต่ดันปล่อยให้ช็อตหุ้นสนุกมือ) ก็ได้เสียงชื่นชมจากคนในวงการตลาดหุ้นมากมาย เหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่า เที่ยวนี้ต้องการล้างบ้านให้สะอาดจริง ๆ จึงขอปรบมือดัง ๆ ให้กับความยอดเยี่ยมที่จัดการทุกอย่างแบบแลนด์สไลด์นะคะ

Back to top button