ผลพวงของการถูกโดดเดี่ยว

ถึงแม้ว่ามาตรการทางการทหารในการรุกรานยูเครนจะไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนตัวของรัสเซียได้ แต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่รัสเซียได้รับจะกินเวลายาวนานกว่าการเมืองเรื่องอำนาจ เพราะมาตรการที่ยักษ์ใหญ่ด้านสถาบันจัดอันดับเรตติ้งนำมาใช้นั้นเข้าข่ายสร้างการโดดเดี่ยวที่ชวนขนหัวลุกไม่น้อย


ถึงแม้ว่ามาตรการทางการทหารในการรุกรานยูเครนจะไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนตัวของรัสเซียได้ แต่ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่รัสเซียได้รับจะกินเวลายาวนานกว่าการเมืองเรื่องอำนาจ เพราะมาตรการที่ยักษ์ใหญ่ด้านสถาบันจัดอันดับเรตติ้งนำมาใช้นั้นเข้าข่ายสร้างการโดดเดี่ยวที่ชวนขนหัวลุกไม่น้อย

ล่าสุดพันธบัตรรัฐบาลรัสเซียในตลาดตราสารหนี้ ถูกรัสเซียถูกปรับลดอันดับเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับสองโดย Fitch Ratings ที่ออกมาระบุว่าการผิดนัดชำระหนี้ของพันธบัตรนั้น “ใกล้เข้ามา” อันเป็นผลมาจากมาตรการต่าง ๆ ที่นำมาใช้ตั้งแต่เกิดสงครามในยูเครน และธนาคารยักษ์ใหญ่ของรัสเซียถูกกีดกันออกจากระบบโอนเงินระหว่างประเทศหรือ SWIFT

Fitch Ratings ปรับลดอันดับเครดิตรัสเซียลง 6 ระดับเป็น C ซึ่งสูงกว่าผู้กู้ที่ถูกผิดสัญญาไปแล้วหนึ่งขั้น บริษัทระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของ Fitch ว่าการผิดนัดโดยรัฐ กำลังใกล้เข้ามา กล่าว “การเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรและข้อเสนอที่อาจจำกัดการค้าพลังงาน เพิ่มความน่าจะเป็นของการตอบสนองนโยบายโดยรัสเซีย”

เงินกู้โดยรัฐตามปกติแล้วถือว่ามีความมั่นคงสูงสุด การลดระดับเรตติ้งของตราสารหนี้ภาครัฐจะยิ่งทำให้ตราสารหนี้เอกชนเสียหายอย่างรุนแรงเข้าข่าย “หุ้นกู้ขยะ” หรือ junk bonds” โดยปริยาย

ผลลัพธ์คือเอกชนรัสเซียจะไม่สามารถออกหุ้นกู้มาขายหรือระดมทุนในตลาดการเงินได้อีกเลยในช่วงจากนี้ไป

นี้เปรียบได้กับระเบิดนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจที่รัสเซียถูกเล่นงานเข้าเต็ม ๆ

ก่อนหน้า Fitch Ratings ยักษ์ใหญ่เรตติ้ง 2 รายหลักของโลกอย่าง Moody’s และ S&P ก็ทำการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลรัสเซียและเอกชนรัสเซียลง

หนึ่งในกลุ่มเอกชนที่เดือดร้อนชื่อ โรมัน อับรามโมวิช เศรษฐีรัสเซียเจ้าของทีมฟุตบอลสโมสรเชลซีของอังกฤษ ก็ต้องถูกมรสุมกระหน่ำจนต้องประกาศขายทิ้งสโมสร (แม้ว่าการตั้งราคาเสนอขายจะแพงเกินไปจนขาดความน่าเชื่อถือ แต่ก็เชื่อว่าเขามีเจตนากลบกระแสเกลียดชังรัสเซียด้วย)

Moody’s Investors Service ปรับลดอันดับเครดิตในรัสเซียเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ขณะที่ S&P Ratings ยังคงให้มีอันดับสูงกว่าค่ามาตรฐานสามระดับ แต่ก็เชื่อกันว่าในเดือนถัดไปหากสงครามในยูเครนยังลุกลามและยืดเยื้อ การปรับอันดับของตราสารหนี้รัฐบาลรัสเซียจะต้องมีขึ้นเข้าข่าย “ขยะ” อย่างแน่นอน

การปรับลดอันดับของ Fitch สะท้อนให้เห็นถึงผลพวงของความโดดเดี่ยว ทางเศรษฐกิจ การเงิน และการเมืองของรัสเซียที่เพิ่มขึ้นในกระแสโลกที่เห็นว่ารัสเซียกำลังก่อสงครามรุกรานที่ไม่ชอบธรรมกับยูเครน

ยิ่งแนวโน้มของสงครามนิวเคลียร์มีโอกาสเป็นไปได้มากขึ้นเท่าใดผลพวงของการถูกโดดเดี่ยวจากชาวโลกก็สะท้อนว่ารัสเซียกำลังตกอยู่ใต้ “คำสาปแช่งของเวตาล” ไปทุกขณะ

คำสาปของเวตาลนี้  เป็นที่เลื่องลือในตำนานนิทานเวตาลที่ว่าด้วย โยคีเจ้าเล่ห์ที่ออกอุบายสังหารพระเจ้าวิกรมาทิตย์เพื่อยึดอำนาจโดยสร้างเรื่องให้พระเจ้าวิกรมาทิตย์ไปปลดเวลาที่เป็นอสุรกายในป่าช้า เพื่อให้เวตาลเล่านิทานที่สามารถสังหารพระเจ้าวิกรมาทิตย์ได้

เวตาลรู้ทันกับเล่ห์กระเท่ห์ของโยคีดังกล่าว ออกอุบายโดยเล่านิทานที่มีเงื่อนไขเป็นปริศนาท้ายเรื่องถามพระเจ้าวิกรมาทิตย์ โดยถ้าหากกษัตริย์รู้คำตอบ แต่ไม่ยอมพูดพระเศียรจะต้องหลุดจากบ่า แต่ถ้าตอบถูก เวตาลจะลอยตัวออกจากย่ามกลับไปที่เดิม

นิทานปริศนาที่เวตาลเล่ามาทั้งหมด 24 เรื่องแรก พระเจ้าวิกรมาทิตย์ทรงตอบได้ทั้งหมด เรื่องมาถึงสุดท้ายที่ 25 ที่ทรงไขปริศนาไม่ออก และระลึกขึ้นได้ว่านี้คืออุบายถ่วงเวลาของเวตาล ให้พระองค์ได้สติปัญญาจึงนิ่งเงียบ แล้วเมื่อมาพบโยคีที่รออยู่จึงใช้ดาบประหารโยคีเสียก่อนทำให้คำสาปเวตาลในตอนเกริ่นนำที่ว่ากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่จะทำลายเพทุบายของคนคดที่มุ่งร้ายบรรลุผล

รัสเซียซึ่งก่อสงครามด้วยเล่ห์ที่ต้องการให้ยูเครนตกใต้อิทธิพลต่อไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด กำลังสร้างคำถามถึงเป้าหมายที่เป็นไปได้ 3 ประการ ของความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดสงครามนิวเคลียร์ ซึ่ง ดร.สุรชาติ บำรุงสุข เอ่ยปากอย่างแหลมคม ในการวิเคราะห์เรื่องรัสเซีย-ยูเครนที่ประกอบด้วย

1) รัสเซียอาจโจมตีด้วยการกระทำต่อเป้าหมายที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน เพราะส่วนหนึ่ง ยูเครนเป็นดัง “แหล่งพลังงาน” ที่สำคัญของยุโรป เนื่องจากยูเครนมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เป็นจำนวนมากถึง 15 โรง หากรัสเซียใช้อาวุธของสงครามตามแบบโจมตีโดยตรงต่อเป้าหมายดังกล่าว ย่อมจะทำให้เกิดการระเบิดของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หรือโดยนัยคือ เกิด “การระเบิดนิวเคลียร์” ขึ้นในยูเครน อาจมีนัยถึงการโจมตีด้วยความตั้งใจ หรือเกิดจากสถานการณ์การรบติดพัน เทียบเคียงได้กับกรณีของปัญหา “วิกฤตโรงไฟฟ้าที่เชอร์โนบิล” ที่เกิดขึ้นในยูเครนในยุคของสหภาพโซเวียตมาแล้ว แต่การโจมตีอาจมีขอบเขตใหญ่ของการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีมากกว่า  ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อยุโรปและโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น คำถามที่ตามมาคือ ชาติตะวันตกจะมีปฏิกริยาอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ แต่สหประชาชาติเองก็พยายามอย่างมากที่จะทำให้พื้นที่ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ปลอดจากการรบของทั้งสองฝ่าย

2) รัสเซียอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี เพื่อยุติปัญหาการต่อสู้ของกำลังรบยูเครน เนื่องจากสงครามไม่เป็นไปดังเป้าหมายที่รัสเซียต้องการ ที่จะสามารถเผด็จศึกด้วยการยึดยูเครนให้ได้อย่างรวดเร็ว หัวรบนิวเคลียร์ที่ติดตั้งกับขีปนาวุธระยะใกล้ “อาจจะ” เป็นทางเลือกโดยตรง และรัสเซียมั่นใจได้ว่า ยูเครนไม่มีขีดความสามารถทางด้านอาวุธนิวเคลียร์ จึงไม่มีความกังวลที่จะต้องระวังการ “ตอบโต้กลับ” ด้วยการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของฝ่ายตรงข้าม แต่ในทางการเมืองและการทหารก็คือ ฝ่ายตะวันตกจะยอมรับกับให้รัสเซียใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในการโจมตียูเครนเพียงใด และความคาดหวังของรัสเซียว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีอย่างจำกัดจะสามารถทำให้เกิด “สงครามจำกัด” ได้จริงหรือไม่

3) หากความตึงเครียดทวีถึงจุดสูงสุด อันเป็นผลจากการที่ตะวันตกตัดสินใจใช้กำลังรบเข้าแทรกแซงการรุกทางทหารของกองทัพรัสเซียและผู้นำรัสเซียตัดสินใจขั้นเด็ดขาดที่จะ “กดปุ่ม” ยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์โดยมุ่งทำลายเป้าหมายทั้งในส่วนของยูเครน และของฝ่ายตะวันตกสถานการณ์เช่นนี้จะนำไปสู่สภาวะของ “สงครามนิวเคลียร์ขนาดใหญ่” ระหว่างรัสเซียกับรัฐมหาอำนาจตะวันตกโดยตรง และย่อมจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างคาดไม่ถึงในเวทีโลก

ผลพวงที่เกิดขึ้นจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด ดังที่เกิดกับฮิโรชิมาและนางาซากิจากการทำลายด้วยระเบิดปรมาณูในปี 1945 มาแล้ว  …แต่การที่อำนาจการทำลายล้างของอาวุธนิวเคลียร์ในปัจจุบันสูงกว่าที่ฮิโรชิมาและนางาซากิ..…สิ่งที่จะเกิดตามมาย่อมเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดคะเนได้เลย และจะเป็นโลกอีกชุดที่คาดเดาไม่ได้ด้วย

ผลพวงของการถูกโดดเดี่ยวของรัสเซีย และแนวโน้มความสุ่มเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ที่เป็นมากกว่าโยนหรือยิงขีปนาวุธใส่กันตามปกติ อาจจะทำให้ตลาดหุ้นและตลาดเก็งกำไรพังพินาศมากเกินกว่าแค่เป็นการถามถึง “ก้นกระทะของราคาหุ้น” หรืออัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงิน

ขอให้พวกเราภาวนากันว่าอย่าให้การวิเคราะห์ทางร้ายแม่นยำ จนถึงผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง

แม้คำภาวนาดังว่า เราจะรู้ ทั้งรู้ ว่า อาจจะเป็นแค่ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ แบบ “คำสาปของเวตาล” ก็ตาม

Back to top button