AOT ทั้งขึ้น ทั้งล่อง.!

ไม่ต่างจากอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิดมานานกว่า 2 ปี สำหรับบริษัท AOT ที่โดนโควิดเล่นงานซะอ่วมอรทัย จากที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ฟู่ฟ่า


ไม่ต่างจากอยู่ในอุโมงค์ที่มืดมิดมานานกว่า 2 ปี สำหรับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ที่โดนโควิดเล่นงานซะอ่วมอรทัย จากที่เคยเป็นรัฐวิสาหกิจที่ฟู่ฟ่ามีรายได้และกำไรปีละหลายหมื่นล้านบาทป้อนให้กับรัฐบาล…แต่ตั้งแต่งวดปีงบประมาณ 2563 (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2563) เป็นต้นมา รายได้และกำไรก็ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ โดยรายได้เหลือแค่ 33,129 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิเหลือ 4,320 ล้านบาท

ขณะที่งวดปีงบประมาณ 2564 (สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. 2564) รายได้ลดวูบเหลือแค่ 7,715 ล้านบาท แถมพลิกมาขาดทุนมโหฬาร 16,322 ล้านบาทอีกต่างหาก… ส่วนงวดไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 2565 (ต.ค.–ธ.ค.2564) มีรายได้ 2,520 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิไปแล้ว 4,271 ล้านบาท สงสัยภาพรวมทั้งปีขาดทุนอีกแหง ๆ…

แต่ท่ามกลางความมืดมิดในอุโมงค์นั้น ก็พอมีแสงสว่างอยู่บ้าง แม้ยังไม่ใช่แสงสว่างปลายอุโมงค์ก็ตามที จากกรณี ศบค. ไฟเขียวให้ปรับมาตรการการเปิดรับผู้เดินทางเข้าประเทศแบบ Test & Go ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ไม่ต้องแสดงการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในช่วง 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศ ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ  เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565

แต่หลังจากเดินทางเข้ามาแล้ว ยังคงให้ตรวจ RT-PCR ในวันแรก จากนั้นในวันที่ 5 ให้ตรวจแบบ ATK ด้วยตัวเอง แล้วแจ้งผลผ่านแอปพลิเคชัน

รวมทั้งยังเตรียมพิจารณาปรับลดวงเงินประกันของนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย จากเดิมกำหนด 50,000 เหรียญสหรัฐฯ ก็เหลือ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งคำนวณจากค่าเฉลี่ยการรักษาพยาบาลในระยะต่อไป เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวะเวลาที่เหมาะสม

โอเค…กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน ร้านอาหารได้ประโยชน์ อันนี้ไม่เถียง แต่อย่าลืมว่าจะได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับการเลือกใช้บริการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เรียกว่าต้องลุ้นและแบ่ง ๆ กันไป แต่คนที่ได้ไปเต็ม ๆ โดยไม่ต้องแบ่งใคร ก็คือ  AOT ในฐานะเป็นประตูเมืองของประเทศไทยจะได้ก่อนเลย จากค่าธรรมเนียมสนามบิน..!!

นี่คือปัจจัยแรกที่ทำให้ AOT กลับมามีชีวิตชีวามากขึ้น…

ไม่จบเท่านี้…ศบค. ยังมีมติให้สามารถจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 ได้ เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การละเล่น การแสดงทางวัฒนธรรม แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting…นั่นหมายถึงคนจะเดินทางกลับภูมิลำเนามากขึ้น คนส่วนใหญ่อาจเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคล อีกส่วนอาจใช้บริการขนส่งสาธารณะ ทั้งรถทัวร์และรถไฟ

แต่ก็คงมีคนอีกจำนวนมากที่เลือกใช้บริการสายการบิน เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง ดังนั้น ไม่ว่าคนจะเดินทางขึ้นเหนือ อีสาน หรือล่องใต้… AOT ก็จะมีรายได้จากค่าธรรมเนียมสนามบิน..!!

กลายเป็นโอกาสของ AOT ทั้งขึ้น ทั้งล่อง..!!

เอาน่า…แม้จะไม่ทำให้งบกลับมาสดใสซาบซ่าเหมือนก่อน แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้งบดูดีขึ้นละมั้ง..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button