mai แผลงฤทธิ์

วอลุ่มเทรดในแต่ละวันทะลุเกินระดับหมื่นล้านแบบนี้ มันเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นการหลบหลีกแรงปะทะที่เกิดจากนักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างดี


*สถานการณ์ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้รู้ว่า นักเล่นหันมาลุยหุ้นในตลาด mai กันอย่างคึกคัก จนวอลุ่มเทรดในแต่ละวันทะลุเกินระดับหมื่นล้านแบบนี้ มันเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นการหลบหลีกแรงปะทะที่เกิดจากนักลงทุนสถาบันได้เป็นอย่างดี และทำให้บรรยากาศการลงทุนของตลาดเอ็มเอไอคึกคักตลอดเวลา ซึ่งสวนทางกับการเทรดใน SET ที่เต็มไปด้วยแรงกดดันนานัปการพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องทิ้งน้ำหนักไปที่ตลาด เอ็ม เอ ไอ มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นการไล่หุ้นด้วย สตอเบอรี่..อุ๊ย..สตอรี่ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเติบโต เรื่องที่เกี่ยวกับการบิ๊กเชนจ์ รวมทั้งเรื่องของพันธมิตรใหม่ หรือแม้กระทั่งขาใหญ่ลุยด้วยตัวเอง ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ราคาหุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อ จนเกิดกระแสข่าวลือในทำนอง หุ้นจะไปเท่านั้น..หุ้นจะไปเท่านี้ อย่างดาษดื่นไงล่ะคะ

*โดยเฉพาะในรายของหุ้นร้อนอย่าง ABM กลายเป็นช็อตเด็ดที่ขาลุยกระโจนใส่มือเป็นระวิง จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.84 บาท บวกไป 0.48 บาท หรือขึ้นไป 14.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.71 พันล้านบาท พร้อมกับทำ all time high และยังเปิดแก๊ปทิ้งไว้แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ต้องอาศัยความไวมากเป็นพิเศษ เพราะในแง่ของปัจจัยพื้นฐานมันเดินมาถึงจุดที่ไปต่อยาก หลังหุ้นเทรดบน PE 38 เท่าแล้วน่ะซี

*ส่วนในรายของหุ้น FSMART ก็ไล่ราคาจนทะลุเป้าของโบรกเกอร์ที่ให้ไว้แบบนี้ “โมนิก้า” พูดได้คำเดียวว่า คงเป็นผลมาจากกำไรไตรมาส 1 ส่อแววออกมาดีกว่าคาด บรรดานกรู้ถึงกระโจนใส่กันอย่างอุตลุด วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 17.80 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 946 ล้านบาท และมีเรื่องที่ทำให้ต้องคิดกันต่อไปว่า วันนี้จะรักษาฟอร์มร้อนแรงได้หรือเปล่า?..อิอิอิ

*คล้ายกับกรณีของหุ้น ZIGA ที่หันมาเอาดีเกี่ยวกับเหมืองขุดบิตคอยน์ ก็เป็นสตอรี่ที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มหลงใหล “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่หุ้นพยายามดีดตัวเป็นระยะ และเมื่อสบช่องได้โอกาสก็พุ่งแรงทันที วานนี้จึงเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ12.40 บาท บวกไป 2.65 บาท หรือขึ้นไป 27.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.96 พันล้านบาท แถมเป็นการไล่หุ้นในช่วง 1 ชั่วโมงสุดท้ายของการเทรดแบบนี้ มันหมายถึงเจ้ามือลงมาเล่นอีกรอบแล้วนะจ๊ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นที่เป็นแหล่งชุมนุมขาใหญ่อย่าง DITTO อีกครั้ง เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 75 บาท บวกไป 5.50 บาท หรือขึ้นไป 7.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 696 ล้านบาท มันเป็นเกมที่เล่นกับอนาคตล้วน ๆ หุ้นถึงเทรดบน PE 182 เท่าแบบไม่สะทกสะท้าน หรือมองในอีกมุมหนึ่งก็คือ เจ้ามือกุมหุ้นไว้หมดแล้ว! จึงไม่ต้องกังวลกับรายการแตกแถวก่อนเวลาอันควรเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ลากทุบกันสนุกมืออย่างหุ้นน้ำมันหอย SEAOIL ก็เป็นช็อตที่นักเล่นควรศึกษารูปแบบการเล่นให้ถ่องแท้ เพราะการลากหุ้นจากระดับ 4 บาท ขึ้นไปถึง 5.40 บาท ต่อจากนั้นทุบลงมาใหม่ แล้วก็ดันกลับไปแถวเดิม ซึ่งวนเวียนไปมาทั้งหมด 2 รอบแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมสั้นที่แมงเม่าต้องไหวตัวให้ทัน หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.38 บาท บวกไป 0.54 บาท หรือขึ้นไป 14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 418 ล้านบาทไงล่ะคะ

*เม้าท์ถึงเกมสั้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น IND เพื่อชี้ให้เห็นการทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.36 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 14.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 299 ล้านบาท มันเป็นการขึ้นมาใกล้ยอดเดิมบริเวณ 2.50 บาทเข้ามาทุกที แถมเที่ยวก่อนก็เลิกเล่นบริเวณนี้พอดี เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้จะทะลุแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ เพราะเมื่อดูจากสตอรี่ของหุ้นตอนนี้ก็มีเพียงคำว่า เทิร์นอะราวด์! ส่วนเรื่องจริงจะเป็นเช่นไร..ก็ต้องดูกันต่อไปจ้า!

*ส่วนหุ้นที่ไล่ราคาเป็นช่วง ๆ ในทิศทางแกว่งตัวขึ้นอย่าง NBC ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับนักเล่นสายฮาร์ดคอร์ เพราะการขยับตัวของหุ้นในช่วงหลัง ๆ มักร้อนแรงบางวัน ต่อจากนั้นก็นิ่ง ๆ ไปชั่วคราว “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเดาเกมกันเองว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.10 บาท บวกไป 0.21 บาท หรือขึ้นไป 11.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 395 ล้านบาท เหมาะต่อการวัดดวงดูสักตั้งไหมเอ่ย?..อิอิอิ

Back to top button