LH ยังเป็นหนึ่งเหมือนเดิม

ใคร ๆ ก็รู้อยู่ว่าหุ้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่าง LH นั้นเป็นหนึ่งในกิจการเจ้าตลาดในฐานะผู้นำอันดับหัวแถวทางด้านทำกำไรรายหนึ่งในตลาดนี้มายาวนาน และปีนี้ก็ยังคงมีรายได้และกำไรที่โดดเด่นเช่นเดิม


ใคร ๆ ก็รู้อยู่ว่าหุ้นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่าง LH นั้นเป็นหนึ่งในกิจการเจ้าตลาดในฐานะผู้นำอันดับหัวแถวทางด้านทำกำไรรายหนึ่งในตลาดนี้มายาวนาน และปีนี้ก็ยังคงมีรายได้และกำไรที่โดดเด่นเช่นเดิม

เพียงแต่ใครบางคนอาจจะไม่รู้ว่าราคาหุ้นของ LH นั้นที่ระดับราคาใต้ 9.00 บาทนั้นต่ำมากเกินไปเมื่อเทียบกับบุ๊กแวลูของบริษัทที่ระดับราคาล่าสุดหลังจากประกาศงบไตรมาสแรกมาแล้ว

ราคาตามบุ๊กแวลูล่าสุดที่ระดับ 4.33 บาท กระโดดขึ้นมาจากปลายปีก่อนที่ระดับ 4.01 บาท และกำไรสะสมล่าสุดอยู่ที่ 2.73 หมื่นล้านบาท ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องฐานเงินทุนแต่อย่างใด จากความสามารถทำกำไรกลับโดดเด่นอีกครั้งด้วยอัตรากำไรสุทธิสิ้นไตรมาส 1 ที่เพิ่งประกาศไปมากถึง 24% ถือเป็นความสามารถพิเศษ ห้ามเลียนแบบ

งวดไตรมาส 1 ปี 2565 LH และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิจำนวน 1,931.49 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน 1,744.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.72% สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อที่เริ่มกลับมาปกติหลังจากแรงกดดันเรื่องโควิด-19 ผ่านไปจากจุดเลวร้ายสุด

กำไรที่เพิ่มขึ้นโดดเด่นเกิดจากหลายเหตุพร้อมกันซึ่งปรากฏในรายงานของผู้บริหารว่า เพราะแม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลง ในไตรมาสที่ 1 ปี 2565 เท่ากับ 6,965.67 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน 7,140.20 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 2.44 แต่เทียบกับต้นทุนที่ต่ำลง ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 31.87

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับรายได้ที่ลดลง สะท้อนความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่นไร้เทียมทานอย่างแท้จริง ในขณะที่ราคาหุ้นกลับมีท่าทีทรงตัว ส่งผลให้พี/อีค่อนข้างทรงตัว

เทียบกับราคาหุ้นในธุรกิจเดียวกันอย่าง AP ที่วิ่งขึ้นไปเหนือกว่า 10.00 บาท แล้วถือได้ว่าราคาหุ้นของ LH มีราคาที่ถ่วงให้ต่ำเกินจริงค่อนข้างมาก

หากมองจากอนาคตของผลประกอบการของ LH เทียบกับรายได้และความสามารถทำกำไรของหุ้นอสังหาริมทรัพย์แล้ว ราคาหุ้นที่ต่ำเตี้ยเทียบกับเครือข่ายการตลาดของค่ายเดียวกันอย่างหุ้นธนาคารอย่าง LHFG รวมถึง QH และ HMPRO แล้ว โอกาสที่จะได้เห็นความสามารถทำกำไรยุคหลังโควิด-19 ทางด้านผลประกอบการจริงแล้วไม่มีโอกาสที่จะกำไรแย่ลงแต่อย่างใด

ในแง่การตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นพอร์ตสินค้าของ LH ถือได้ว่ามีครบเครื่องทั้งที่อยู่อาศัยแบบขายขาดทั้งแนวราบและอาคารสูง อีกทั้งยังมีอสังหาริมทรัพย์แบบผลิตเพื่อเช่า (โดยมีกองทุน REITs สนับสนุนแข็งแกร่ง) และการปันผลจากการลงทุนในบริษัทเครือข่าย…เรียกว่าครบวงจร ที่สามารถปรับตัวได้ดีจนกระทั่งความสามารถทำกำไร วัดจากอัตรากำไรสุทธิที่โดดเด่นกว่า 24%

การทยอยซื้อสะสมในหุ้นอย่าง LH ที่ราคายังไม่วิ่งรุนแรงถือได้ว่ามีความเสี่ยงต่ำมาก เว้นเสียแต่ว่า นักลงทุนจะไม่ชอบหุ้นที่ราคาไม่หวือหวา…ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

Back to top button