BANPU กดสั้น..ดันยาว.!

ชัดซะที..!! กับการแปลงสิทธิวอร์แรนต์ BANPU-W4 ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่นักลงทุนรอกันอยู่


ชัดซะที..!! กับการแปลงสิทธิวอร์แรนต์ BANPU-W4 ของบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่นักลงทุนรอกันอยู่ ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีการแปลงสิทธิอยู่ที่ 1,688 ล้านหน่วย จากจำนวนวอร์แรนต์ทั้งหมด 1,690 ล้านหน่วย เหลือราว 3.47 ล้านหน่วย…

เท่ากับว่าจะมีหุ้น BANPU เพิ่มขึ้นอีก 1,688 ล้านหุ้น เนื่องจากอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้น ทำให้จากเดิมมีหุ้นอยู่ทั้งหมด 6,766 ล้านหุ้น ก็เพิ่มเป็น 8,454 ล้านหุ้น และเกิดไดลูชันเอฟเฟกต์ราว 25%…

ขณะที่ การแปลงวอร์แรนต์ครั้งนี้ BANPU จะได้เงินเข้ากระเป๋าราว 8,440 ล้านบาท (ราคาใช้สิทธิที่ 5 บาท)..!!

โอเค…ดูเหมือนการแปลงวอร์แรนต์ BANPU-W4 จะจบไปแล้ว แต่สิ่งที่ยังไม่จบคือ ความกังวลที่ว่าหุ้นบางส่วนจะถูกเทขายออกมา เนื่องจากกลุ่มคนที่ได้วอร์แรนต์มาฟรี มีต้นทุนต่ำกว่าราคาในกระดาน ดังนั้นจะขายที่ราคาไหนก็ได้กำไร จึงอาจเกิดปรากฏการณ์ขายทำกำไรออกมา…

ทำให้ระยะสั้นเป็นตัวกดดันราคาหุ้น BANPU..!?

แต่ด้วยราคาน้ำมันที่กลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง (จากการที่โอเปกพลัสประกาศลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ซึ่งจะทำให้ราคาถ่านหินและก๊าซฯ กลับมาพุ่งปรี๊ดอีกครั้ง อาจช่วยบรรเทาแรงเทขายหุ้น BANPU ให้เบาบางไปได้บ้างไม่มากก็น้อย

แต่ถ้ามองระยะยาว…การที่ BANPU มีเงินมาเติมหน้าตักอีก 8,440 ล้านบาท ในขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 2/2565 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในกระเป๋ากว่า 1,090 ล้านบาท สองก้อนนี้รวมกันปาไป 9,530 ล้านบาท

นั่นหมายถึงการจะไปลงทุนโครงการต่าง ๆ ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการไปซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ในสหรัฐอเมริกา, การลงทุนผ่านกองทุน Public US-based Healthcare Investment Fund ในรูปแบบ Founding Limited Partner ที่เน้นการลงทุนในหุ้นทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพหรือเฮลท์แคร์ ในสหรัฐอเมริกา, ซื้อโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ขนาดกําลังการผลิต 768 เมกะวัตต์ ในสหรัฐอเมริกา, ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในเวียดนาม รวมทั้งการลงทุนในธุรกิจแบตเตอรี่และรถยนต์ไฟฟ้า และอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกในอนาคต ก็จะมีเงินสดไปลงทุนมากขึ้น…การกู้แบงก์ก็จะน้อยลงอ๊ะป่าว..?

ที่สำคัญ เงินก้อนนี้มีต้นทุนต่ำ ไม่มีภาระในเรื่องของดอกเบี้ย สามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เอ๊ะ…หรือถ้า BANPU จะแบ่งเงินบางส่วนไปจ่ายหนี้ ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 2/2565 มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีสูงกว่า 33,369 ล้านบาท ในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้แบงก์มากถึง 23,576 ล้านบาท ที่เหลือเป็นหุ้นกู้ราว 9,792 ล้านบาท ก็ได้นะ…

นั่นจะทำให้โครงสร้างทางการเงินดูดีขึ้น มีอัตราหนี้สินต่อผู้ถือหุ้น (D/E) ลดลง

อย่างน้อย ๆ จะทำให้ BANPU ตัวเบาขึ้นบ้างแหละน่า..!!

ที่สำคัญจะทำให้ความสามารถในการกู้เงินระยะยาวมีต้นทุนต่ำลง ความเสี่ยงต่ำ แบงก์มีความมั่นใจที่จะปล่อยกู้มากขึ้น

ก็เข้าทำนอง “กดระยะสั้น…แต่ดันระยะยาว” นะจะบอกให้…

แต่งานนี้นักลงทุนคงต้องทำใจรอหน่อยละกัน…

เอาน่า คิดซะว่า “ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม”…ก็แล้วกัน ถ้าพร้าไม่หักไปซะก่อนนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button