ไตรมาส 1/66 CHAYO จะสวยขึ้น

หากไม่มีอะไรผิดแผน เมื่อรับรู้ผลขายทอดตลาดที่ดินที่จังหวัดพังงา น่าจะทำให้ CHAYO ดูสวยขึ้น ในไตรมาส 1 ปี 2566 นี้แน่


เส้นทางนักลงทุน

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา หุ้นบมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO พุ่ง 8.23% ปิดที่ 8.55 บาท ระหว่างวันทำจุดสูงสุด 8.70 บาท ต่ำสุด 8.10 บาท ขานรับศาลฯ ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2565 เพิกถอนหรือยกเลิกคำร้องการคัดค้านการเพิกถอนการขายทอดตลาดของหลักประกันของลูกหนี้แห่งหนึ่งทางภาคใต้ผ่านกรมบังคับคดี ในวันที่ 28 มีนาคม 2565 ดังนั้นผลการขายทอดตลาดในวันดังกล่าวที่มีผู้ประมูลได้นั้น จึงมีผลตามกฎหมายต่อไป

ความล่าช้าในการขายทอดตลาดหลักประกันดังกล่าว สืบเนื่องจากมีผู้มาร้องกรมบังคับคดีต่อศาลฯ ให้เพิกถอนผลของการขายทอดตลาด เมื่อไตรมาส 1 ปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้ประมูลไปด้วยราคา 900.80 ล้านบาท

ที่ดินดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 3 แปลง ซึ่งอยู่ในจังหวัดพังงา ประกอบด้วย ที่ดินเนื้อที่ 241-1-10 ไร่ ราคาขายที่บุคคลภายนอกประมูลได้คือ 739 ล้านบาท, เนื้อที่ 19-1-95 ไร่ ราคาขายที่ดินที่บุคคลภายนอกประมูลได้คือ 126.20 ล้านบาท, และเนื้อที่ 22-1-64 ไร่ ราคาขายที่บุคคลภายนอกประมูลได้คือ 35.60 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 900.80 ล้านบาท โดยประมาณการสิทธิในการได้รับชำระหนี้ 889.45 ล้านบาท

ณ 9 เดือนแรกปี 2565 ที่ผ่านมา CHAYO มีรายได้รวม 726.70 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม

CHAYO มียอดจัดเก็บจากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันและยอดรายได้จากการขายหลักประกันของหนี้ด้อยคุณภาพจำนวน 234.36 ล้านบาท โดยที่ยอดจัดเก็บหนี้ชนิดไม่มีหลักประกันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากเมื่อช่วงปลายปี 2564 ได้มีการซื้อพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพชนิดไม่มีหลักประกันมาบริหารเพิ่มเติมมากขึ้น

CHAYO มีกำไรสุทธิ 9 เดือนแรก 164.98 ล้านบาท ลดลง 3.19% ส่วนกำไรไตรมาส 3 เท่ากับ 35.93 ล้านบาท ลดลง 49.31% จากงวดเดียวกันปีก่อน เพราะกำไรส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขายลดลง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

ณ 30 กันยายน 2565 CHAYO มีสินทรัพย์รวม 7,042.96 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 3,273.95 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 3,769.01 ล้านบาท มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนที่ 0.81 เท่า

CHAYO ประเมินโอกาสของการได้หนี้ใหม่เข้ามาเติมพอร์ตอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มสถาบันการเงินจะเร่งทยอยขายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ออกมา ตั้งเป้ามีพอร์ตซื้อหนี้ด้อยคุณภาพบริหารคงค้างแตะระดับแสนล้านบาท

ซึ่งจะมาจาก 1.การลงทุนของบริษัท โดยการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารทั้งหนี้ที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นรายย่อย (รีเทล) และลูกค้า SME

2.การร่วมทุน (JV) ธนาคารพาณิชย์ และ 3.บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย เจวี จำกัด (Chayo JV) โดย CHAYO ถือหุ้นใน Chayo JV คิดเป็นสัดส่วน 55% ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด

ล่าสุด CHAYO ได้ลงนามเซ็นสัญญาซื้อหนี้ด้อยคุณภาพประเภทเช่าซื้อรถยนต์และหนี้ประเภทอื่น ๆ มูลหนี้รวมกว่า 4,000 ล้านบาท เสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตหนี้ กับธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) และ บล.ดาโอ มีคำแนะนำตรงกัน คือ “ซื้อ” ต่างประเมินว่าหุ้น CHAYO ได้รับผลบวกจากการรับรู้กำไรภายหลังศาลฯ ได้มีคำสั่งเพิกถอนหรือยกเลิกคำร้องการคัดค้านการเพิกถอนการขายทอดตลาดของหลักประกันดังกล่าว

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินกระแสเงินสดที่เข้าใน CHAYO ประมาณบวก/ลบ 900 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2566 และรับรู้กำไรราวบวกลบ 300 ล้านบาท จากประเด็นนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถนำไปซื้อหนี้เสียได้อีกราว ๆ 1 หมื่นล้านบาท หรือจ่ายคืนหนี้ ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายได้ปีละ 50-60 ล้านบาท

ขณะที่ ประเมินผลการดำเนินงานปี 2566 จะกลับมาโตเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากที่เริ่มซื้อหนี้เข้ามาเพิ่มได้อีก โดยคาดกำไรจะเติบโต 74% เป็น 400 ล้านบาท มี Forward P/E ปี 2566 ลดลงเหลือ 21.4 เท่า จึงมีอัพไซด์ (Upside) ให้ปรับประมาณการขึ้น ให้ราคาเป้า Consensus 10 บาท

เช่นเดียวกับบล.ทรีนีตี้ ที่มองเป็นบวก อาจเห็นกําไรเข้ามาในไตรมาส 1 ปีหน้า คาดจะส่งผลให้ CHAYO มีกําไรราว 200 ล้านบาท หากผู้ประมูลได้นําเงินมาชําระกับกรมบังคับคดี ซึ่งทางผู้ประมูลได้มีการมัดจําไว้กับกรมบังคับคดีแล้วราว 45 ล้านบาท

ทําให้คาดว่ากําไรปี 2566 จะเติบโตสูงราว 200% จากงวดปีก่อน  (รวมกําไรจากที่ดินแปลงดังกล่าวเข้ามาในประมาณการแล้ว) และ CHAYO จะได้รับเงินสดอีกราว 900 ล้านบาท เพื่อนําไปลงทุนซื้อหนี้หรือปล่อยสินเชื่อต่อ

ทั้งนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่ผู้ร้องเดิมจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฯ ได้ภายใน 1 เดือนนับตั้งแต่ศาลชั้นต้นมีคําสั่งชี้ขาดคดี แต่มีโอกาสที่ศาลฯ จะไม่รับอุทธรณ์เช่นกันหากไม่มีประเด็นทางกฎหมาย หรือหลักฐานใหม่มานําเสนอต่อศาลฯ

โบรกเกอร์รายนี้คงคําแนะนํา “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายที่ 11.70 บาท อิงวิธี P/BV 4.25 เท่า มองราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาค่อนข้างมาก สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ทําให้มีอัพไซด์ (Upside) ที่น่าสนใจ

ส่วนบล.ดาโอ ให้ราคาเป้าหมาย 9 บาท อิงปี 2566 ที่ P/BV ที่ 2.1 เท่า มองมีความแน่นอนในการขายทรัพย์ที่จังหวัดพังงา ทำให้มีเงินทุนซื้อหนี้เสียปี 2566 จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 2.5 พันล้านบาท สามารถซื้อหนี้เสียได้เพิ่มขึ้นถึง 1-1.5 หมื่นล้านบาท จาก 9 เดือนแรกปีนี้อยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท

แม้หุ้น CHAYO จะถูกขายทำกำไรกดราคาตกลงมา แต่ก็ยังยืนได้เหนือ 8 บาท ดังนั้นหากไม่มีอะไรผิดแผน เมื่อรับรู้ผลขายทอดตลาดที่ดินที่จังหวัดพังงา น่าจะทำให้ CHAYO ดูสวยขึ้น ในไตรมาส 1 ปี 2566 นี้แน่

Back to top button