หน้ากากคนดี

สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาลประจำปี 65 ว่า “รัฐบาลหน้ากากคนดี” สะท้อนว่า ภายใต้หน้ากากของรัฐบาลที่สร้างภาพจำตลอดเวลาว่าเป็นคนดี


สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายารัฐบาลประจำปี 2565 ว่า “รัฐบาลหน้ากากคนดี” สะท้อนว่า ภายใต้หน้ากากของรัฐบาล ที่สร้างภาพจำตลอดเวลาว่าเป็นคนดี นโยบายทุกอย่างทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน

แต่ภาคปฏิบัติที่ผ่านมา กลับทำให้ประชาชนเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่า ภายใต้หน้ากากที่ประกาศตนเป็นคนดีนั้น เป็นคนดีจริงหรือไม่?

ส่วนตัวพล..ประยุทธ์ จันทร์โอชาก็ได้รับฉายาว่า “แปดเปื้อน” จากปมวาระดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ได้สั่นคลอนภาพลักษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ที่ชอบพูดอยู่เสมอว่าไม่ยึดติดกับอำนาจ

ตลอดจนนโยบายและการบริหารงานต่าง ๆ ที่มีเรื่องราวฉาวโฉ่ แม้พิสูจน์กันทางกฎหมายไม่ได้ แต่ก็ทำให้ถูกมองว่า ไม่ได้ใสสะอาดผุดผ่องอีกต่อไป

ในทางพฤติกรรมสังคม คนจะดีจริง ต้องให้ผู้อื่นมองเห็น หาใช่ตนเองเป็นผู้ประกาศยกย่องตนซะเองไม่ มีตัวอย่างให้เห็นมากมายถึงการสร้างตัวตนเป็น “คนดีจอมปลอม”

กรณีนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จอมลวงโลก ที่ถึงขั้นจ้างศิลปินชื่อดังมาแต่งเพลงยกย่องภาพลักษณ์เป็น

“ผู้ให้” ก็เป็นกรณีหนึ่งล่ะ

และกรณีล่าสุดก็เป็นกรณีของนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ถูกล่อจับทุจริตเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา ทั้งลูกน้องที่ต้องการเลื่อนตำแหน่ง โยกย้ายงาน กระทั่งค่าซื้อเก้าอี้ตัวเดิมไว้

ในกรมแห่งนี้ มีส่วนราชการกว่า 10 สำนัก อธิบดีท่านนี้ กำหนดให้หน่วยงานส่งส่วยเงินทุจริตเป็นเปอร์เซ็นต์ขึ้นมาหมด มีการเรียกเก็บทั้งรายเดือน-รายปี และรับเป็นเงินสด ส่งตรงให้อธิบดีอย่างอุกอาจ

นี่คือกรมหนึ่งในกระทรวงหนึ่ง กระทรวงหนึ่งมีกี่กรมกันล่ะ ถ้าทุกกระทรวง ทุก ๆ กรม มีพฤติกรรมแบบเดียวกับกรมอุทยานฯ กันหมด การทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงมิแพร่ระบาด เป็นมอดปลวกชอนไชประเทศชาติจนอาจล้มครืนเข้าสักวันดอกหรือ

อธิบดีคนนี้ ก็เข้าข่ายคนดีที่สร้างภาพ หรือ “คนดีจอมปลอม” เช่นกัน เพราะใช้งบหลวงโชว์ภาพไขว้มือต่อต้านคอรัปชั่น ประกาศงดรับของขวัญ แต่แท้จริงเที่ยวรีดไถเงินสกปรกจากลูกน้อง

คนดีที่ชอบยกย่องตัวเองนี่น่ากลัวจริง ๆ!

ตลาดหุ้นปีนี้ คงปิดได้ในระดับใกล้เคียงกับดัชนีปิดสิ้นปี 64 ที่ระดับ 1,657 จุด ไม่ได้ก้าวหน้าไปกว่าปีที่แล้วสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ถือว่าไม่ถึงกับเลวร้ายนัก เพราะต้องเจอทั้งโควิด 10 เดือน พลังงานราคาแพงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และวิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลก

ดัชนีหลักทรัพย์ฯ ปิดได้ในระดับใกล้เคียงเสมอตัวกับปีที่แล้ว ก็ถือว่า ไม่เกิดความเสียหายในการลงทุนสักเท่าไหร่นัก

ปีหน้าฟ้าใหม่ 2566 ก็พอจะมองเห็นปัจจัยดี ทั้งการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่อาจมีการเจรจายุติศึกกันได้ และราคาพลังงานก็อาจจะถูกลง ปัจจัยการเมืองก็อาจจะคลี่คลายภายหลังเลือกตั้งปี 66

ปัจจัยเสี่ยงก็อาจจะเกิดจาก “ภาษีขายหุ้น” ที่ได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งจะเริ่มจัดเก็บตั้งแต่ 1 ..ปีหน้านั่นแหละ

ปีเสือผ่านไป ปีกระต่ายเข้ามาแทนที่ ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน และมีสุขภาพพลานามัยดี ปลอดจากโรคภัยไข้เจ็บตลอดศก 2566 เทอญ

Back to top button