แนวต้านเหนือ 1,670 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยหรือ SET ที่พยายามโหนขึ้นมายืนใกล้เคียงแนวต้านที่ 1,574 จุด เริ่มออกอาการละล้าละลัง จากการเทขายทำกำไรของหุ้นหลักวานนี้


ดัชนีตลาดหุ้นไทยหรือ SET ที่พยายามโหนขึ้นมายืนใกล้เคียงแนวต้านที่ 1,574 จุด เริ่มออกอาการละล้าละลัง จากการเทขายทำกำไรของหุ้นหลักวานนี้ทำให้ดัชนีผันผวนในภาคเช้าที่ดันขึ้นไปบวก 6 จุดเศษ ๆ แล้วร่วงลงมาติดลบต่ำกว่า 7 จุด สุดท้ายก็ออกอาการไปไม่รอด

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ ทำให้สิ่งที่นักวิเคราะห์สายโลกสวยที่มองว่าจะมีโอกาสเกิดผลกระทบเดือน มกราคมหรือ January effect จบลงเร็วเกินคาดหรือไม่มีเกิดขึ้นจริง

คงต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่ว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะต้องลงไปทดสอบความแข็งแกร่งของแนวรับที่ 1,630 จุด เสียก่อนถ้ายืนยันได้ว่าที่แนวรับดังกล่าว มีแรงซื้อกลับคืนมา ก็จะเด้งกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง ครั้งต่อไป แนวต้านก็จะเคลื่อนตัวขึ้นไปอยู่แถว ๆ 1,700 จุด อันเป็นจิตวิทยาที่สำคัญว่าตลาดไทยจะแบกรับการไหลเข้าของทุนระลอกใหม่ได้ดีเพียงใด

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ จะเป็นจริงหรือไม่ก็ยากยิ่งที่จะยืนยันเป็นมั่นเหมาะ

บางคนอาจจะโบ้ยความผิดไปที่ตรุษจีนที่ปีนี้จะมาเร็วผิดปกติ แต่หลายเสียงยืนยันว่าไม่ตรงประเด็นเลย เพราะตลาดเงินโดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนยังคงไม่นิ่ง แม้ว่าค่าเงินบาทบาทจะแข็งแกร่งเทียบกับค่าดอลลาร์และเยนของญี่ปุ่น ก็ตาม สะท้อนถึงความหวาดกังวลว่าค่าบาทจะหล่นลงไปใต้ 37 บาทต่อดอลลาร์ไม่เกิดขึ้นแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะตัวแปรเศรษฐกิจโลกในปี 2566 นั้นมีโจทย์ใหม่ที่ท้าทายมากกว่านี่คือการพลิกกลับจากฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในจีนที่จะระเบิดน่ากลัวรุนแรง เป็นภัยร้ายแรงสำหรับโลกถัดจากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หรือเฟดฯ จะขึ้นดอกเบี้ยแรงแค่ไหน

ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบเยน รับคาดการณ์ส่วนต่างดอกเบี้ยสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นลดเพราะว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นน่าจะมีแนวโน้มถอนมาตรการผ่อนคลายทางการเงินลงไปมากขึ้นซึ่งจะทำให้โอกาสที่เงินเยนของญี่ปุ่นกลับแข็งค่าขึ้นมาจากระดับเหนือกว่า 132 เยนต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่แถว ๆ 120 เยนต่อดอลลาร์ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากการคาดการณ์ว่า ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นจะลดลง

ความสนใจของกองทุนต่างชาติต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทย น่าจะฟื้นตัว ได้ดี จากการที่ภาวะ stagflation มีแนวโน้มดีขึ้น และอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงขณะที่ผลพวงจากนโยบายรัฐเรื่องโควิด-19 ผ่อนคลายมากขึ้น แล้วผลประกอบการโดยรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาสวยงามขึ้นจริงจังเสียที และหากรัฐไทยไม่มีปัจจัยที่ทำลายตัวเองรุนแรง โอกาสที่การคาดเดาว่าปีนี้จะ “เผาจริง” ก็จะเกิดขึ้นได้ต่ำโดยปริยาย

ปีนี้ถือได้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง และราคาหุ้นน่าจะได้เวลากลับมาเป็นขาขึ้นโดยเฉลี่ยเสียที

คนที่ถือหุ้นไว้น่าจะถึงเวลา “ไพร่ฟ้าหน้าใส” เสียที

แนวต้านที่ไม่ผ่านรอบนี้ รอบต่อไปก็อาจจะพังทลาย หากว่าเดือน เมษายนนี้ บจ.ทั้งหลายกลับมาจ่ายปันผลงาม ๆ แล้วก็ไม่หลุดแนวรับที่ 1,630 ลงไป

เรียกว่ารอบนี้ลงเพื่อขึ้นต่อก็น่าจะได้ ใครจะเถียงก็ว่ามาละกัน

Back to top button