JKN เพิ่มทุนล้างหนี้.!

เราไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียน เพราะการเข้าซื้อ MUO ครั้งนี้มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการ และไม่จำเป็นต้องกู้เงินแต่อย่างใด


ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ได้มง “มิสยูนิเวิร์ส” จากการทุ่มงบ 800 ล้านบาท เข้าเทกโอเวอร์บริษัทที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มิสยูนิเวิร์ส เวทีประกวดนางงามระดับโลกที่มีอายุเก่าแก่กว่า 71 ปี ก็มีความยินดีปรีดาพ่วงด้วยความกังวล..!!

ตอนนั้นมงลงหุ้น JKN ไปเต็ม ๆ ราคาวิ่งปรอทแตกอยู่หลายวัน…แต่ลึก ๆ แล้ว ก็มีความกังวลกันว่า จะเอาเงินมาจากไหน..? ต้องเพิ่มทุนป๊ะเนี่ย..?

สุดท้าย เจ๊แอน-“จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์” ออกมาย้ำนักย้ำหนาว่า ไม่มี๊ไม่มีแน่นอน..!! โดยระบุว่า “เราไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนแต่อย่างใด เพราะการเข้าซื้อกิจการ MUO ครั้งนี้มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการ และไม่จำเป็นต้องกู้เงินแต่อย่างใด” ก็ทำให้นักลงทุนคลายกังวลไปได้บ้าง…

แต่เผลอแป๊บเดียว…ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่ผ่านมาได้แค่ 6 วันเท่านั้น JKN ก็ประกาศเพิ่มทุนซะแล้ว..!!

อ้าว…ไหนบอกว่าจะไม่มีการเพิ่มทุนยังไงล่ะคะ เจ๊แอน ขา..?? แล้วนี่มันอิหยัง..?

จุดเริ่มต้น…สืบเนื่องจากที่ประชุม JKN เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2566 มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,019.79 ล้านบาท จากเดิม 509.83 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 1,019.92 ล้านหุ้น แบ่งเป็น 1,019.79 ล้านหุ้น ขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) อัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 3 บาท รวมมูลค่า 3,059.37 ล้านบาท

ส่วนที่เหลืออีก 127,285 หุ้น รองรับการแปลงสิทธิหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่ North Haven Thai Private Equity Gemini Company (Hong Kong) Limited (NHTPE)

ไฮไลต์อยู่ที่วัตถุประสงค์ของการใช้เงินเพิ่มทุน ซึ่งถูกแบ่งเป็น 3 ก้อนด้วยกัน ก้อนแรก เกินกว่าครึ่ง หรือราว 55% ของจำนวนเงินเพิ่มทุน จะนำไปชำระหนี้ภายในปี 2567 ส่วนก้อนที่สอง ประมาณ 30% ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในปี 2566 และก้อนสุดท้าย ประมาณ 15% รองรับการขยายการลงทุนภายในปี 2567

นั่นเท่ากับว่า JKN เพิ่มทุนครั้งนี้ก็เพื่อไปล้างหนี้นะเนี่ย..!!

ก็สอดคล้องกับตัวเลขทางการเงินของ JKN ณ สิ้นไตรมาส 3/2565 ที่พบว่ามีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าแค่ 294.92 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 2,168.66 ล้านบาท ในจำนวนนี้ แบ่งเป็น หนี้สถาบันการเงิน 273.31 ล้านบาท หุ้นกู้ 1,895.35 ล้านบาท

โดยมีอัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) 0.60 เท่า มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) 1.72 เท่า ขณะที่อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย (Interest Coverage Ratio) อยู่ที่ 1.86 เท่า และมีอัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (Quick Ratio) 0.48 เท่า

ถ้าดูจากตัวเลขสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้ บ่งบอกว่าสถานการณ์ของ JKN น่าเป็นห่วง…ซึ่งคงเป็นเหตุและผลให้เจ๊แอนต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเองล่ะมั้ง..!?

แต่ก็น่าคิด ด้วยเงินเพิ่มทุนเกินกว่าครึ่งถูกนำไปชำระหนี้ แทนการใช้สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างที่ควรจะเป็น ตรงนี้อาจทำให้ผู้ถือหุ้น JKN เกิดคำถามตามมาว่า ถ้าใส่เงินลงไปแล้ว จะคุ้มค่าหรือเปล่า..??

แถมเมื่อช่วงปลายปีก่อน “เจ๊แอน” เทขายบิ๊กล็อตออกมาหลายครั้ง จนปัจจุบันเหลือถือหุ้นแค่ 183.01 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 25.23% มาเขย่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนซ้ำอีก…

ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า เป็นการขายหุ้นเพื่อหนีเพิ่มทุนอ๊ะป่าว..? เพราะถ้าเจ๊แอนใส่เงินเพิ่มทุนตามสัดส่วนที่ถือ ก็แค่ 549.05 ล้านบาทเองนะ

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เมื่อวันศุกร์ที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เห็นนักลงทุนพากันหนีตายจากหุ้น JKN กันจ้าละหวั่น ส่งผลให้ราคาทรุดลงไป 13.12% ปิดตลาดที่ 3.84 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 367.88 ล้านบาท

ส่วนราคาจะไหลรูดไปหาราคาเพิ่มทุนที่ 3.00 บาท อ๊ะป่าว..? อันนี้ไม่รู้

แต่ที่พอรู้ “เจ๊แอน” หลอกดาว..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button