สังคมข่าวหุ้น

วานนี้ดัชนี SET ไซด์เวย์ทั้งวัน ปิดบวกเพียง 1.70 จุด มาที่ 1,687.45 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 72,753 ล้านบาท


วานนี้ดัชนี SET ไซด์เวย์ทั้งวัน ปิดบวกเพียง 1.70 จุด มาที่ 1,687.45 จุด มูลค่าการซื้อขายกว่า 72,753 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก (SET) 387 ล้านบาท

ดีล “บางจาก” BCP ซื้อ “เอสโซ่” (ESSO) ผ่านขั้นตอนแรกไปแล้ว สรุป ซื้อแบบเหมาหมด ส่วนราคารับซื้อ หากคำนวณจากมูลค่าการแจ้งมา กับจำนวนหุ้นจะได้ค่าเฉลี่ยต่อหุ้น 8.84 บาท แต่เห็นว่าราคานี้อาจจะยังไม่ใช่ราคาสุดท้าย เพราะหากผลประกอบการของเอสโซ่ไตรมาส 4/2565 ออกมาดี สวยงาม ราคาจะสูงขึ้นไปได้อีก เลยมีการดีดลูกคิดคำนวณไว้ว่า ราคาอาจจะอัพขึ้นมาได้ถึง 9.50 บาท ส่วนใครที่ติดเอสโซ่อยู่ 11.00-13.00 บาท ต้องหาจังหวะถัวเฉลี่ยกันดู หรือไม่ก็ไปเล่น BCP ในจังหวะย่อตัว

เดลต้าฯ DELTA ราคาหุ้นเริ่มนิ่ง ๆ ปิดตลาด บวก/ลบ ไม่ได้หวือหวามากนัก และไม่ได้มีนัยสำคัญต่อดัชนี SET50 รวมถึง SET50 Index Futures แต่ราคา ณ ปัจจุบัน ถือว่าสูงกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์แต่ละสำนักฯ ให้กันไว้ เช่น บล.บัวหลวง ให้เป้าหมาย 700 บาท แต่ราคาปิดวานนี้ 872 บาท แต่คงต้องดูว่า กำไรไตรมาส 4/2565 จะออกมาเซอร์ไพร์สหรือเปล่า เพราะหากมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้ ราคาที่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ อาจจะเป็นราคาที่เหมาะสมก็ได้

กลุ่มแบงก์จะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการในสัปดาห์หน้า เริ่มจาก บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป หรือ TISCO อาจจะแจ้งตลาดฯ ในช่วงวันศุกร์นี้เลยก็ได้ หรืออย่างช้าสุดคือช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.นี้ ต่อจากนั้น จะมีแบงก์อื่น ทยอยแจ้งกันตามออกมา แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ แรงขายทำกำไร เพราะหุ้นแบงก์ส่วนใหญ่ ราคาถูกไล่ขึ้นมาตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. 2565 แล้ว บางหุ้นขึ้นมากว่า 10-12% แต่มีบางหุ้นที่ราคายังวิ่งไม่มาก หรือแลกการ์ดกลุ่มและตลาดฯ เช่น “แบงก์กรุงไทย” หรือ KTB

บมจ.บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ หรือ BAM ราคาหุ้นขึ้นมารอบนี้ หากยืนเหนือ 16.00 บาท ได้ถึงสัปดาห์หน้า ระดับราคานี้จะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งได้ และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 16.60–16.80 บาท ในด้านของแนวโน้มกำไรงวดไตรมาส 4/2565 จะออกมาสูงกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อเน และไตรมาสก่อนหน้า ส่วนปีนี้เอง การซื้อหนี้ เก็บหนี้จะทำได้ดีขึ้นหลังสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ราคาเป้าหมายที่โบรกฯ ให้กันไว้ส่วนใหญ่เกินกว่า 20.00 บาท น่าจะเป็นหุ้นประเภทแถวสอง แถวสามที่ราคาจะวิ่งตามพวกบิ๊กแคปขึ้นมา

บมจ.ไออาร์พีซี IRPC ราคาเริ่มฟื้น แต่ยังแลกการ์ดกลุ่มฯ อีกค่อนข้างมาก แนวต้านถัดไปคือ  3.30 บาท ในระยะสั้น ราคาอาจจะย่อตัวลงบ้าง หลังวิ่งขึ้นมาจาก 2.90 บาท มาที่ 3.12 บาท หรือในช่วง 5 วันทำการราคาขึ้นมา 7-8% แนวรับ 2.10–2.08 บาท น่าจะพอรับได้ แต่หากถามว่าราคาจะไปได้ไกลแค่ไหน ถึง 3.50 บาท หรือเปล่า คำตอบนี้ คงยากที่จะตอบ เพราะในตลาดหุ้นอะไรก็เกิดขึ้นได้ วันดีคืนดี นักลงทุนเกิดคึก รุมเข้าซื้อกัน ราคาอาจจะพุ่งติดจรวดก็ได้

Back to top button