BGRIM ปัจจัยบวกเพียบ!

BGRIM ได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 3/65 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานตั้งแต่งวดไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป


คุณค่าบริษัท

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เป็นผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าในกลุ่ม SPP ที่มีลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) เป็นหลัก ซึ่งแม้ผลงานในไตรมาส 3/2565 ออกมาไม่สู้ดี พลิกขาดทุน 529 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 447 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงถึง 830 ล้านบาท รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติกดดันกำไร

แต่ถูกมองว่า BGRIM ได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 3/2565 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานตั้งแต่งวดไตรมาส 4/2565 เป็นต้นไป มีปัจจัยหนุนจากการรับรู้ผลการปรับขึ้นค่า Ft งวด ก.ย.-ธ.ค. 2565 แบบเต็มไตรมาสและต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อน

ขณะที่ ปี 2566 คาดผลการดำเนินของ BGRIM จะฟื้นตัวได้มากที่สุดในกลุ่ม รับปัจจัยหนุนจาก 1) การปรับขึ้นค่า Ft รอบใหม่ งวด ม.ค.-เม.ย. 2566 2) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงจากฐานที่สูง และ 3)ปริมาณการขายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตามการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการใหม่ ๆ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้า อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 จำกัด (ABP1R) กำลังการผลิตติดตั้ง 140 เมกะวัตต์, โครงการโรงไฟฟ้า อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2 จำกัด (ABP2R) กำลังการผลิตติดตั้ง 140 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้า บี.กริม เพาเวอร์ (เอไออี-เอ็มทีพี) จำกัด (BGPM1R) กำลังการผลิตติดตั้ง 140 เมกะวัตต์ เป็นต้น

ขณะที่ BGRIM ยังมีแผนที่จะเข้าลงทุนในโครงการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยยังคงเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้า 7,200 เมกะวัตต์ (7.2 GW) และ 10,000 เมกะวัตต์ (10.0 GW) ภายในปี 2566 และ 2573 ตามลำดับ จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 4,000 เมกะวัตต์ (4.0 GW) โดยมีโครงการอยู่ระหว่างการศึกษาไม่น้อยกว่า 3,500 เมกะวัตต์ (3.5 GW) ปัจจุบันรอความชัดเจนการปรับราคารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์และลม จากทางรัฐบาลเวียดนาม

ด้านบล.เคจีไอ ระบุว่า ปรับเพิ่มกำไรหลักในปี 2566-2567 ของ BGRIM ขึ้นอีก 13-35% เพื่อสะท้อนถึงการขึ้นค่า Ft โดย 1) คาดราคาก๊าซเฉลี่ยในปี 2566 จะลดลงมาอยู่ที่ 470 บาท/mmbtu (จาก 500 บาท/mmbtu ในปี 2565) ก่อนที่จะลดลงไปอยู่ที่ 320 บาท/mmbtu ในปี 2567 ในขณะเดียวกันคาดว่าจะมีการทยอยปรับขึ้นค่า Ft อีก ในปี 2566 ก่อนที่จะทรงตัวในปี 2567 จึงคาดว่ากำไรหลักของ BGRIM จะโตถึง 600% ในปี 2566 (จากผลของฐานที่ต่ำ) และโต 60% ในปี 2567 เนื่องจากราคาก๊าซของ SPP ลดลง, มีการขึ้นค่า Ft, มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามาและประสิทธิภาพ SPP replacement จำนวน 5 โครงการดีขึ้น

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น BGRIM ในส่วนของ P/E ปัจจุบันคำนวณไม่ได้ เนื่องจากผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ ขณะที่ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.29 เท่า ส่วน P/BV ของหุ้น BGRIM ที่ระดับ 3.33 เท่า ก็อาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.66 เท่า

Back to top button