DCC เสน่ห์ที่หายไป.!

ขึ้นชื่อว่าเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดีเด่นตัวหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา สำหรับ DCC หรือที่รู้จักในฉายาเจ้าพ่อกระเบื้องตลาดนัด..!!


ขึ้นชื่อว่าเป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลดีเด่นตัวหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา สำหรับบริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC หรือที่รู้จักในฉายาเจ้าพ่อกระเบื้องตลาดนัด..!! เนื่องจากเน้นจับตลาดระดับกลาง-ล่าง ก่อนจะขยายมาสู่ตลาดระดับบนเมื่อไม่กี่ปีมานี้

ทำให้ DCC เป็นของที่ต้องมี…สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะกลางและยาว เพื่อรอรับเงินปันผล ยีลด์เฉลี่ย 5-6% ต่อปี

แต่ล่าสุด DCC น่าจะไม่ใช่หุ้นเป้าหมายอีกแล้ว หลังจากแจ้งปรับเปลี่ยนนโยบายการจ่ายเงินปันผล จากเดิม “กำหนดให้บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ตามงบการเงินรวมบริษัทฯ และบริษัทย่อย Consolidated ทั้งนี้บริษัทฯ จะต้องไม่มียอดขาดทุนสะสม และมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลได้ โดยให้พิจารณาถึงแผนการลงทุนในอนาคตของโครงการต่าง ๆ ด้วย”

เป็นนโยบายใหม่ “กำหนดให้บริษัทจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ตามงบการเงินรวมบริษัทฯ และบริษัทย่อย Consolidated ทั้งนี้บริษัทจะต้องไม่มียอดขาดทุนสะสม และมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายเงินปันผลได้ โดยให้พิจารณาถึงแผนการลงทุนในอนาคตของโครงการต่าง ๆ ด้วย”

จะเห็นว่า เดิม DCC เคยจ่ายเงินปันผลสูง ที่อัตราไม่ต่ำกว่า 70% ต่อไปก็จะเหลือไม่ต่ำกว่า 40% เท่านั้น แหม๊…หายไปเยอะเชียว..!!

จากนโยบายดังกล่าว ก็ทำให้หุ้น DCC หมดเสน่ห์ไปโดยปริยาย..!!

เห็นได้จากพอแจ้งข่าวปุ๊บ (แจ้งวันที่ 14 ก.พ. 2566) นักลงทุนก็เทกระจาดหุ้น DCC ปั๊บ แถมเทกระจาดต่อเนื่อง 2 วันซ้อน จนราคารูดไปแล้วกว่า 16%…

ก็ไม่รู้ว่าราคาจะไหลลงไปหยุดตรงไหน เพราะดูท่าแล้วน่าจะยังขายไม่สะเด็ดน้ำเลยล่ะมั้ง..!!

ว่าแต่ทำไมจู่ ๆ DCC ถึงปรับเปลี่ยนนโยบายการจ่ายเงินปันผลเสียล่ะ..?? หลายคนคงอยากรู้

เพราะถ้าไปดูในแง่ของผลประกอบการงวดปี 2565 ก็ยังดูดี แม้จะย่อตัวลงเล็กน้อย โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,631 ล้านบาท ลดลง 4.7% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 1,714 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 8,342 ล้านบาท ลดลง 0.6% เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้จากการขาย 8,396 ล้านบาท

ถ้าให้เดา…มีความเป็นไปได้ว่า DCC อาจมีโปรเจกต์ใหญ่รออยู่ จำเป็นต้องใช้เงิน…ขณะที่ ณ สิ้นปี 2565 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ในกระเป๋า 39.88 ล้านบาทเท่านั้น…ครั้นจะไปกู้แบงก์ก็ต้องแบกภาระดอกเบี้ยหลังอาน เพราะอยู่ในเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้น

ดังนั้น หนึ่งในทางออกที่ดีและไม่มีต้นทุน คือการปรับลดการจ่ายเงินปันผล เพื่อเก็บเงินเอาไว้ใช้สำหรับการลงทุนในอนาคต…

ถ้าเป็นดังที่คาดจริง ก็พอเข้าใจได้…แต่ดูเหมือนนักลงทุนจะไม่ปลื้มนะ…

เพราะยังไม่รู้ว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน..? ที่ DCC จะกลับมาจ่ายเงินปันผลระดับเดิม…

แต่ที่รู้ นับจากนี้ DCC จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วครับท่าน..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button