มาเหนือเมฆ

กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์พันลึกเมื่อดัชนีพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,618.51จุด บวกไป 11.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.75 หมื่นล้านบาท


กลายเป็นเรื่องมหัศจรรย์พันลึกเมื่อดัชนีพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,618.51จุด บวกไป 11.63 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.75 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ฟอร์มฝืดมาเป็นเวลานาน และไม่มีแววจะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง จึงเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติสำหรับตัวอีฉัน และยังไม่ปักใจเชื่อว่า นี่คือการกลับทิศอย่างบูรณาการ เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เป็นตัวกดดันการทะยานขึ้นของดัชนีไงล่ะคะ

โดยเฉพาะเรื่อง “ดอกเบี้ย” ขาขึ้นที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติเร่งขายหุ้นเพื่อโยกเงินอีกครั้งนั้น มันส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกโดยตรง ขณะเดียวกันก็ต้องลุ้นงบไตรมาส 1 ให้ออกมาดีกว่าที่คาดนั้น “โมนิก้า” มองเป็นแรงกดดันมหาศาลที่จะทำให้ดัชนีอาจเสียทรงอีกรอบ และเป็นที่มาของการแนะนำให้แฟนคลับหาจังหวะทำกำไร ต่อจากนั้นค่อยหาโอกาสเข้ามารับของเมื่อลงมาถึงแนวรับสำคัญพะย่ะค่ะ

วันนี้ถึงต้องยอมรับกันตามตรงว่า ความร้อนแรงของตลาดหุ้นไทยวานนี้เหนือคาดหมาย พร้อมกับเปิดช่องให้นักเล่นที่ชอบโหนกระแสเข้ามาตะลุมบอนอีกรอบ “โมนิก้า” จึงขอเอ่ยถึงหุ้นตัวท็อปที่กลับมาโชว์แสงวิบ ๆ วับ ๆ เพราะเป็นหุ้นเป้าหมายที่เกจิอาจารย์ดังเชื่อว่า ไปต่อยาว ๆ แต่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นจะเป็นเหมือนที่ “ฟันธง” ไว้ขนาดไหน? ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันเอาเองนะจะบอกให้

คล้ายกับในรายของเจ้าพ่อโทรคมนาคม ADVANC ก็ยังติดนิสัยแทงกั๊กทั้งปีทั้งชาติ จนเดี๊ยนไม่สามารถปักใจเชื่อว่า นี่คือหุ้นที่น่าเล่น! เพราะเที่ยวนี้ก็ “วางมาด วางฟอร์ม” มาดีทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เหลวเป็นน้ำอีกตามเคย เลยไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้จะทะลุยอดเดิมบริเวณ 212 บาทไหม? หลังหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 204 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.47 พันล้านบาทแล้วน่ะซี

เช่นเดียวกับหุ้นที่โปรไฟล์ดูดี มีแต่คนแนะนำให้เล่น แต่สุดท้ายก็ยังไม่หลุดพ้นกับคำว่า “รอ” แบบไม่มีกำหนด “โมนิก้า” คงชี้เป้าไปที่หุ้น TIDLOR แบบไม่ลังเลใจ เพราะการย่ำฐานไปมาสองสามวันที่บริเวณ 24 บาท พร้อมกับทำดับเบิ้ลบอททอมในคราวเดียวกัน มันน่าจะมีอะไรให้ได้ลุ้นมากกว่านี้ จึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 24.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 597 ล้านบาท น่าจัดสักดอกไหมคะ

ส่วนในรายที่พุ่งพรวดแบบไม่คาดฝัน คงต้องมองไปที่หุ้น III เป็นรายถัดมา เพราะการเกิดขึ้นของแท่งเทียนเขียวที่ยาวเป็นกิโล น่าจะหมายถึงแรงซื้อจำนวนมหาศาลได้เข้ามาอีกครั้ง และเที่ยวนี้ก็คงหมายมั่นปั้นมือที่จะลากหุ้นให้ทะลุไฮเดิมบริเวณ 16 บาทแน่ ๆ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินความเป็นไปได้ของการดันหุ้นเที่ยวนี้ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.50 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 11.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 248 ล้านบาท มันไม่ธรรมดาจริง ๆ นะออเจ้า

คล้ายกับการเด้งกลับของหุ้น NCAP ก็เป็นช็อตที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะเป็นการเด้งกลับในช่วงที่หุ้นเป็นขาลง “โมนิก้า” เลยอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่า การยืนปิดที่ระดับ 4 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 8.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 77 ล้านบาท สมควรที่จะไหลตามน้ำหรือเปล่า? หลังแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า ปีนี้ก็คงไม่โตอีกตามเคย เพราะหน่วยงานภาครัฐกระโดดลงมาคุมดอกเบี้ยทุกเม็ดเจ้าค่ะ

สำหรับรายที่ทำท่าจะฟื้นตัวอย่างจริงจัง แต่สุดท้ายก็บ้อท่าอีกตามเคย คงไม่มีใครเกินหน้าไปกว่าหุ้น STA เพราะอาการร่วงต่อเนื่อง 4 วันทำการ และวานนี้ก็ทิ้งดิ่งลงมาปิดที่ระดับ 23.60 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 2.90 % ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 185 ล้านบาท ท่ามกลางความกังวลเรื่องกำไรจะมาตามนัดไหม? มันกลายเป็นจุดพลิกผันสำคัญที่ทำให้การเล่นหุ้นตัวนี้ยากขึ้นนะจะบอกให้

ตบท้ายกันที่หุ้นในตระกูลออริกันดีกว่า เพราะน้องเล็กอย่าง PRI โชว์ฟอร์มอย่างสะเด็ดสะเด่าเกินบรรยาย แถมวานนี้ไต่เพดานขึ้นมาปิดที่ 39.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 94 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high “โมนิก้า” ย่อมรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดา เพราะมันหมายความว่า กำไรปีนี้น่าจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจะเป็นบันไดที่หนุนให้ราคาหุ้นไปต่อนะจ๊ะ

Back to top button