‘โตชิบา’ ในอุ้งมือทุนใหม่

ช่วงปลายเดือน มี.ค. “โตชิบา” ตกลงรับข้อเสนอการขายกิจการของกลุ่ม Japan Industrial Partners (JIP) เป็นกลุ่มของธุรกิจต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น


ช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา “โตชิบา”(TOSHIBA) แบรนด์ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชื่อดังญี่ปุ่น ตกลงรับข้อเสนอการขายกิจการของกลุ่ม Japan Industrial Partners (JIP) เป็นกลุ่มของธุรกิจต่างๆในประเทศญี่ปุ่น หลังจากเริ่มมีกลุ่มทุนต่างๆเสนอซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2564

โดยคณะกรรมการบริษัท มีมติขายกิจการดังกล่าวออกไป คาดว่าจะมีมูลค่า 2 ล้านล้านเยน(หรือประมาณ 520,000 ล้านบาท)หลังได้รับข้อเสนอใหม่และที่ประชุมมองแล้วว่าการที่ JIP เข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าองค์กรและผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น

การขายกิจการโตชิบาครั้งนี้  JIP ในฐานะผู้เข้าซื้อกิจการ จะดำเนินการตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าสากล และทันทีที่ JIP ได้รับการอนุมัติจะเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม ผ่านการเข้าประมูลซื้อกิจการและแปรสภาพโตชิบา สู่การเป็นบริษัท เอกชน และแผนการปรับโครงสร้างบริษัทจะยุติลง เพื่อเข้าสู่กระบวนการซื้อขายกิจการต่อไป

การขายกิจการของ“โตชิบา”ครั้งนี้ เป็นความพยายามที่จะประคองให้บริษัทอยู่รอด หลังประสบปัญหาเกี่ยวกับความโปร่งใสในการบริหารงาน ความผิดพลาดทางบัญชี ปี 2015 และปัญหาทางการเงินจากการลงทุนโรงงานนิวเคลียร์ที่ล้มละลายในปี 2017 ที่ทำให้“โตชิบา”เสียหายหนักถึง 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และต้องขายธุรกิจผลิตชิปเซ็ต ให้กิจการค้าร่วมที่นำโดย Bain Capital มูลค่า 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐช่วงปีเดียวกัน

ถัดมาช่วงปี 2020 โตชิบาเจอปัญหาการทำบัญชีและเกิดกรณีโกงผลโหวตในงานประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี ทำให้นักลงทุนเรียกร้องให้มีการสืบสวนภายใน ทำให้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงการบริหารและมี CVC Capital Partners เสนอเงิน 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อโตชิบากลับไปเป็นบริษัทจำกัด

จากรายงานผลประกอบการโตชิบา วันที่ 31 ธันวาคมปี 2022 หรือ 9 เดือนแรกปี 2022 (เม.ย.22-มี.ค.23) โตชิบามีรายได้ทั้งหมด 2.37 ล้านล้านเยน มีกำไร 8,000 ล้านเยน ลดลง 90.8% จากช่วงเดียวกันปี 2021

แม้บริษัทโตชิบาญี่ปุ่น กำลังจะเปลี่ยนผู้บริหารโตชิบาไทย ยืนยันว่าการขายกิจการของโตชิบา ให้กลุ่มบริษัทญี่ปุ่น JIP จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจและอนาคตของโตชิบาประเทศไทย ในทางกลับกันการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่แบรนด์ผลิตภัณฑ์และผู้บริโภคยิ่งขึ้น

โดย“โตชิบา”มีการเซ็นสัญญาโอนหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Toshiba Lifestyle Products and Services (TLSC) จำนวน 80.1% ให้กับ Midea ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมปี 2016

สำหรับประเทศไทย กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน บริหารจัดการโดยบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เริ่มมาตั้งแต่สิงหาคมปี 1969 และบริษัทยืนยันที่จะจำหน่ายและให้บริการผลิตภัณฑ์โตชิบาตามปกติ และไม่มีผลกระทบใดๆต่อตัวแทนจำหน่ายและลูกค้า

โดยมีแผนการพัฒนาและขยายไลน์สินค้าเพิ่มเติม รวมถึงจัดทำกิจกรรมการตลาด และส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดขายเติบโตมาตลอด และพัฒนางานบริการ ขยายศูนย์บริการและทำกิจกรรมตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้“โตชิบาประเทศไทย”มีการลงทุนเพิ่มในโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์“ไมเดีย” เพื่อเป็นฮับสำหรับในประเทศและส่งออกจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียด้วย

Back to top button