ลุยกันใหม่

การร่วงลงของดัชนีก่อนหยุดยาวสงกรานต์ คงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เป็นแบบนี้มาตลอด


การร่วงลงของดัชนีก่อนหยุดยาวสงกรานต์ คงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดแต่อย่างใด เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็เป็นแบบนี้มาตลอด “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องเท้าความให้เสียเวลา หลังดัชนีทรุดตัวลงมากองอยู่ที่ระดับ 1,592.67 จุด ลบไป 4.43 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.47 หมื่นล้านบาท ผนวกกับไม่มีใครอยากกอดหุ้นข้ามสัปดาห์ จึงเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงเพื่อความสบายใจไงล่ะคะ

ฉะนั้นการที่บรรยากาศของตลาดหุ้นไทย “วังเวง วิเวก  วิเหวโหว” และเอาแต่มุดหัวลงลูกเดียว น่าจะเป็นผลมาจากสัปดาห์นี้มีประเด็นที่กระทบกับการลงทุนมากมาย รวมทั้งเข้าสู่ฤดูกาลขึ้นเครื่องหมาย XD จึงทำให้นักเล่นรอดูสถานการณ์ให้นิ่งเสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะเริ่มทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตอีกรอบ ซึ่งเป็นจุดที่นักลงทุนต้องเริ่มคิดกันอย่างจริงจังว่า กล้าช้อนหุ้นเข้าพอร์ตเมื่อย่อตัวลงมาอ๊ะป่าว?

เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แถมเม็ดเงินในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ก็สะพัดกว่าแสนล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองว่า นี่เป็นโอกาสทองสำหรับคนที่อยากจะเล่นรอบ หลังดัชนีย่อตัวลงมาใกล้กับจุดเด้งครั้งก่อนที่บริเวณ 1,570 จุด และถ้ามองให้ลึกลงไปอีกหน่อยจะเห็นว่า นี่เป็นช่วงประกาศงบแบงก์พอดี จึงเป็นจังหวะของการซื้อหุ้นที่ลงตัวสุด ๆ พะย่ะค่ะ

งานนี้ใครจะเชื่อ หรือใครจะไม่เชื่อ ก็ใช้วิจารณญาณตัดสินกันเอาเอง! แต่สำหรับเดี๊ยนยังมองว่า หุ้นบางตัวควรไปได้ไกลกว่านี้ เพราะราคาหุ้นยังไม่สะท้อนแวลูที่แท้จริงในตอนนี้ โดยเฉพาะในรายของ SCB ซึ่งมีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น และยังมี BV 136 บาทเป็นแบ็คให้อีกทอดหนึ่ง เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 105.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท คือจังหวะของการซื้อสวนจ้า!

ส่วนรายที่น่ากังวลใจสุด ๆ “โมนิก้า” ขอมองย้อนกลับไปที่หุ้นกระดาษลัง SCGP เพื่อชี้ให้เห็นอาการเมาหมัดยังมีอยู่ตลอดเวลา เพราะในวันที่เขาขึ้นกันโครม ๆ คุณพี่ดันไม่กระเตื้องขึ้นมาเลย แต่ในวันที่เขาลงกันหนัก ๆ คุณพี่ก็ลงหนักกับเขาไปด้วย เดี๊ยนเลยเป็นห่วงว่า การยืนปิดที่ระดับ 44.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 343 ล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 2 ปี 1 เดือน อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า ยังทำโลว์ได้อีกน่ะซี

สำหรับรายที่ทำท่าจะกลับไปหาโลว์เดิมที่บริเวณ 80 บาทอย่างหุ้นเครื่องดื่มชูกำลัง CBG ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการเล่นในลักษณะ “ลงช้อน เด้งขาย” ผนวกกับช่วงนี้มีสตอรี่ที่ชวนให้เชื่อว่า งบไตรมาส 2 จะฟื้นตัวอย่างโดดเด่น จึงกลายเป็นจังหวะของผู้กล้าท้าชนแบบเต็ม ๆ หลังราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 44.75 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 343 ล้านบาทไงล่ะคะ

ประเด็นข้างต้นทำให้เดี๊ยนอยากจะเม้าท์ถึงหุ้น WHA ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่เดินหน้าขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสวนทางกับสถานการณ์ตลาดหุ้นที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ “โมนิก้า” เลยอยากถามแฟนคลับว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.46 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 305 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดในรอบ 3 ปี 4 เดือน และยังมีเรื่องของกำไรนิวไฮคอยซัพพอร์ตแบบนี้..น่าลุยต่อไหมจ๊ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น PSG ก็มีแพทเทิร์นคล้ายกับรายข้างต้น แต่ที่เพิ่มมาคงเป็นเรื่องการกลับตัวขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มาพร้อมกับแรงซื้อที่หนาแน่นกว่าเดิมแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.11 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 20.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 205 ล้านบาท มันคือจังหวะของการ follow buy ตามสูตรเทคนิคที่เคยร่ำเรียนมา ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหน? ก็คงต้องดูกันต่อไปจ้า

มุมดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นดาวเด่นของตลาด เอ็ม เอ ไอ PRI อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพราะเมื่อดูจากการเติบโตของกำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้นราว 50% ย่อมเป็นทางเลือกแรก ๆ สำหรับคนที่ต้องการโหนกระแส ผนวกกับเที่ยวก่อนเคยขึ้นไปแตะแถว 43.75 บาท จึงส่งผลให้การขยับก้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 38.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60 ล้านบาท น่าจะมีแก๊ปให้เล่นต่อก็เท่านั้นเอง

Back to top button