Apple เปิดบัญชีเงินฝาก..เพิ่มความเสี่ยงธนาคาร.!

ช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา “Apple Inc.” ประกาศเปิดตัวบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สำหรับผู้ถือบัตร Apple Card โดยให้ผลตอบแทนสูง 4.15% ต่อปี


ช่วงกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา “แอปเปิล อิงค์” (Apple Inc.) ประกาศเปิดตัวบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สำหรับผู้ถือบัตร Apple Card โดยให้ผลตอบแทนสูง 4.15% ต่อปี ตามสัญญาที่มีมายาวนานกับ Goldman Sachs Group Inc. โดยมองหาวิธีดึงดูดลูกค้าทางการเงินในสหรัฐอเมริกา ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจ และความสะดวกของการใช้แอปพลิเคชัน Wallet ดังกล่าว

Apple Inc. ระบุว่า บัญชีเงินฝากออมทรัพย์นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้ Apple Card ได้รับผลตอบแทน 4.15% ต่อปี มากกว่าค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยในประเทศถึง 10 เท่า โดยบัญชีนี้ไม่มีค่าธรรมเนียม ข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำหรือยอดคงเหลือ และสามารถตั้งค่าได้จากภายในแอป Wallet

ความเคลื่อนไหวนี้เอง ทำให้อิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยี เข้าสู่การต่อสู้ที่กว้างขึ้น สำหรับผู้ฝากเงิน และอาจเพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทการเงินอื่น ๆ ที่พยายามปกป้องเงินทุนของตนเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางเผชิญกับการแห่ถอนเงิน เนื่องจากผู้ออมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากแหล่งอื่น ๆ หรือโยกย้ายเงินไปสู่แหล่งปลอดภัยมากขึ้น เช่น JPMorgan Chase & Co. หลังการล่มสลายของ Silicon Valley Bank

เมื่อช่วงเดือน ต.ค. ปี 65 Apple เปิดบริการเสริมของบัตรเครดิต Apple Card ที่ผู้ถือสามารถนำเงิน Daily Cash ระบบเครดิตเงินคืนบัตรเครดิต Apple ฝากไว้กับบัญชีออมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนสูงจากธนาคาร Goldman Sachs โดยฟังก์ชันบัญชีออมทรัพย์ บวกกับระบบเครดิตเงินคืนเมื่อซื้อสินค้า Apple

จึงถือเป็นการดึงดูดให้ผู้ใช้งานยังใช้สินค้า และบริการของ Apple ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะสามารถนำเครดิตเงินคืนมาออมต่อได้ ที่สำคัญได้ดอกเบี้ยสูงด้วย

เมื่อตั้งค่าบัญชีออมทรัพย์แล้ว เงินสดรายวันในอนาคตทั้งหมดที่ผู้ใช้ได้รับจะถูกฝากเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ สามารถฝากเงินเพิ่มเติม ในบัญชีออมทรัพย์ ผ่านบัญชีธนาคารที่เชื่อมโยงหรือจากยอดคงเหลือ Apple Cash

โดยบัญชีออมทรัพย์ที่ Apple ทำกับ Goldman Sachs ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่กำหนดเงินฝากขั้นต่ำ และไม่กำหนดเงินคงบัญชีขั้นต่ำ ผู้ใช้สามารถใช้จ่าย โอนเงิน และออมเงินได้โดยตรงจาก Wallet และได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากสหรัฐฯ (FDIC) ด้วย

ผู้บริหารระดับสูง Apple ระบุว่า “การออมช่วยให้ผู้ใช้ของเราได้รับประโยชน์มากขึ้นจากสิทธิประโยชน์ของ Apple Card เป้าหมายของเรา คือการสร้างเครื่องมือ ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีสุขภาพทางการเงินดีขึ้น การออมใน Apple Card ใน Wallet ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้จ่าย ส่งและบันทึกเงินสดรายวันได้จากที่เดียว”

…น่าเสียดาย Apple Card และ Apple Pay ยังไม่มีการเปิดใช้งานในประเทศไทย..!!

แหละนี่ถือเป็นอีกก้าวของ Apple ที่กำลังเข้าสู่การเป็น Fintech   ด้วยการอาศัยบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของ Apple Card พร้อมแรงจูงใจจากอัตราผลตอบแทน 4.15% ต่อปี

ไม่จำเป็นต้องฝากขั้นต่ำหรือข้อกำหนดยอดเงินขั้นต่ำ เพียงผู้ใช้ต้องมี Apple Card เพื่อเปิดบัญชีออมทรัพย์ เท่านั้นเอง…

ที่สำคัญสามารถตั้งค่าบัญชีจากแอป Wallet บน iPhone ได้เลย

เชื่อว่าการเคลื่อนตัวของ Apple ครั้งนี้..จะเพิ่ม “ความเสี่ยงต่อธนาคารพาณิชย์” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงต้องจับตาดูว่าธนาคารต่าง ๆ จะมีแผนรับมือกันอย่างไร..!!?

เพราะนี่คือ…จุดเริ่มต้นสู่ความเป็น Fintech ของ Apple เพียงเท่านั้น..!!

Back to top button