รวมหุ้นเจ๊งยับ

ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะแย่ลงทุกวัน จนมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาดีดั่งเดิม เพราะแรงกดดันจากนโยบายล้มเจ้าสัวกำลังเขย่าขวัญนักลงทุน


ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะแย่ลงทุกวัน จนมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาดีดั่งเดิมในเร็ววัน เพราะแรงกดดันจากนโยบายล้มเจ้าสัวกำลังเขย่าขวัญนักลงทุนรายวัน และเริ่มแผ่ซ่านไปยังผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่าง ๆ มากขึ้นทุกวัน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ตลาดหุ้นตกอยู่ในอาการเป๋หนักมากขึ้นทุกที เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน ก็เต็มไปด้วยขวากหนามที่พร้อมจะทิ่มตำไงล่ะคะ

งานนี้อย่าหาว่า เดี๊ยนเป็นตัวขัดขวางการนั่งเก้าอี้นายกฯ ของพ่อส้ม “พิธา” กันเลย และอย่าพาทัวร์คณะใหญ่มาเที่ยวบ้านน้องโมเลย (ล้อเล่นอะ..ล้อเล่น) เพราะเดี๊ยนก็อยากรู้เหมือนกันว่า เมื่อพ่อส้มได้เป็นสมใจ! พวกคุณน้องจะนำพาเศรษฐกิจของประเทศไปในทิศทางใด? โดยเฉพาะเมื่อได้กุมกระทรวงสำคัญอย่าง “คลัง” และ “พลังงาน” คุณน้องจะทำได้ตามคำพูดขนาดไหน? และเรื่องที่ป่าวประกาศจะรื้อทุนพลังงาน..กล้าทำอ๊ะป่าว?

เมื่อทุกอย่างยังดูเลื่อนลอย และไม่มีอะไรที่แน่ชัด “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่นักลงทุนสถาบันยังสาดหุ้นออกมาเป็นระลอก จนดัชนีร่วงลงมาปิดที่ระดับ 1,514.89 จุด ลบไป 11.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.73 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นภาพที่ทำให้นักเล่นต้องพึงสังวรไว้ตลอดเวลาว่า เมื่อตลาดหุ้นเด้งขึ้นแรงรอบใหม่ มันเป็นเวลาต้องตัดใจขายขาดทุน เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพอร์ตลงทุนของตัวเองหรือเปล่า?..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

วันนี้เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงหุ้นที่ทำให้พอร์ตพังยับในระยะเวลา 15 วันแบบกู่ไม่กลับกันดีกว่า  และรายแรกที่อยากเม้าท์ถึงก็คือ CPH ซึ่งเซถลาลงมามากถึง 23% จากก่อนหน้านี้ยืนแถว 25.25 บาท แต่วันนี้กลับลงมายืนที่ระดับ 19 บาท โดยที่ผลงานไตรมาส 1 พลิกขาดทุน “โมนิก้า” มองเป็นเกมอันตรายสำหรับคนที่เชื่อว่า ไตรมาส 2 จะพลิกกลับมาดีเหมือนปีก่อน เพราะเมื่อดูสภาพเศรษฐกิจหลังเลือกตั้ง..มันไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นน่ะซี

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น DEMCO เพื่อชี้ให้เห็นว่า การขาดทุนลดลงถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะมันหมายถึงโอกาสพลิกกลับมามีกำไรเริ่มเปิดกว้าง แต่เผอิญสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไม่น่าพิสมัย เดี๊ยนถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 3.70 บาทยังไม่ใช่จุดที่น่าเข้าไปเสี่ยง หลังราคาหุ้นร่วงกว่า 20% ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์แบบนี้..มันใช่ทางเลือกที่เหมาะสมในเวลานี้เหรอคะ

เช่นเดียวกับในรายของพ่อดอกมะลิ JAS ก็เป็นหุ้นที่ทำให้คนที่ถือหมดตูดไปตามกัน เพราะเมื่อย้อนดูสถานการณ์ในช่วง 15 วัน ก็ทำให้นักเล่นทุนหายไปมากถึง 20% แต่ถ้านับตั้งแต่ต้นปี ทุนหายไปถึง 35% “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1.42 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17 ล้านบาท ท่ามกลางปัญหาขาดทุนเรื้อรังตามหลอกหลอนไม่เลิก..น่าช้อนไหมล่ะตัวเอง

ส่วนรายที่ร่วงแรงแซงทางโค้งช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการเทรดเมื่อวันศุกร์ คงไม่มีใครน่ากลัวเท่ากับหุ้นน้องสวย BEAUTY เพราะคุณน้องไหลพรวดเดียวลงมาปิดที่ระดับ 0.74 บาท ลบไป 0.33 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85 ล้านบาท และเมื่อนับย้อนเวลาเท่ากับรายข้างต้น ค่าตัวของคุณน้องก็ตกลงไปมากถึง 35% จึงต้องลุ้นกันต่อไปว่า ครึ่งปีหลังผลงานจะคัมแบ็กได้เหมือนที่เม้าท์กันขนาดไหน?

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์ถึงหุ้น SINGER ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหุ้นอีกตัวที่ทำผลงานน่าผิดหวัง และในไตรมาส 2 ยังต้องเผชิญกับตัวแดงอีกหนึ่งไตรมาส เดี๊ยนเลยต้องเอ่ยว่า การยืนปิดที่ระดับ 11.20 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190 ล้านบาท น่าสนใจขนาดไหน? และเมื่อเทียบกับครึ่งเดือนหุ้นร่วงลงมาเกือบ 22% โดยที่ครึ่งปีหลังมีลุ้นกลับมาทำกำไรแบบนี้..น่าสนใจไหมตัวเอง!

สำหรับรายที่โดนจัดหนักแบบไม่น่าเชื่อ และส่ออาการเป๋หนักมากขึ้น คงต้องเอ่ยถึงหุ้น BCH เพื่อชี้ให้เห็นการร่วงมาจากระดับ 21.70 บาทลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 17.30 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 194 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่น่ากังวลเหลือเกิน! แถมเมื่อรวมตัวเลขย้อนหลังจะเห็นว่า หุ้นร่วงลงมามากถึง 20% มันใช่จังหวะที่ต้องเข้าไปช้อนหุ้นไหม?

Back to top button