กองทุนลุยไฟ

สิ่งที่ “โมนิก้า” สนใจมากสุดในช่วงนี้ก็คือ ไซเคิลการเคลื่อนตัวของดัชนี เพราะสามารถคาดเดาการเคลื่อนตัวเที่ยวนี้จะเป็นเช่นไร?


สิ่งที่ “โมนิก้า” สนใจมากสุดในช่วงนี้ก็คือ ไซเคิลการเคลื่อนตัวของดัชนี เพราะสามารถคาดเดาการเคลื่อนตัวเที่ยวนี้จะเป็นเช่นไร? และทำให้นักเล่นเข้าใจท่าทีของกองทุนที่กล้าลุยไฟมาจากอะไร? หลังดัชนีพยายามตั้งลำเพื่อขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,570 จุดอีกครั้ง ซึ่งเป็นช็อตที่เปิดโอกาสให้พวกขาลุยเข้ามาเล่นเก็งกำไรอีกรอบ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินความเป็นไปได้ของการเล่นเที่ยวนี้.. “คุ้ม” หรือ “ไม่คุ้ม” กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นพะย่ะค่ะ

ประเด็นแรกที่น่าจะมองก็คือ 2 ครั้งก่อนที่ดัชนีลงมาแตะแถว 1,500 จุดปุ๊บ ต่อจากนั้นก็เด้งกลับปั๊บ (จำได้ไหมเอ่ย?) โดยครั้งแรกเป็นการเด้งขึ้นสองวันติดแล้วย่อตัวเล็กน้อย ต่อจากนั้นก็ขยับตัวขึ้นอีกสองวัน ซึ่งเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนดัชนีขึ้นไปบริเวณ 1,600 จุดแบบขาสั่น ก่อนจะโรยตัวลงมาเรื่อย ๆ..ส่วนครั้งที่สองก็มีลักษณะคล้ายกัน แต่เที่ยวนี้เด้งขึ้นไปแค่ระดับ 1,570 จุดเท่านั้นเจ้าค่ะ

สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดคำถามขึ้นมาในใจทันทีว่า เที่ยวนี้ล่ะ? เพราะคนที่เข้ามาพยุงดัชนี และดันดัชนีกลายเป็นกองทุนที่สวมบทฮีโร่ขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยไว้! (วานนี้ซื้อไปอีกสองพันล้าน และเดือนนี้ซื้อไปทั้งสิ้น 2.97 หมื่นล้าน) ขณะเดียวกันก็มีดราม่าเกี่ยวกับติ่งส้มมาป่วนในโลกออนไลน์เกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ยากขึ้นสำหรับการลงทุนต่อจากนี้ เพราะไม่รู้ว่า บรรดากองทุนจะทบทวนการไล่ซื้อหุ้นหรือเปล่าน่ะซี

ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,534.81จุด ลบไป 6.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.66 หมื่นล้านบาท มันอาจ “เกี่ยว” หรือ “ไม่เกี่ยว” กับประเด็นที่หลายคนตั้งไว้ก็ได้? จึงต้องดูเหตุการณ์ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะสถานการณ์ของตลาดหุ้นเปลี่ยนตลอดเวลา แถมยังอ่อนไหวต่อเรื่องต่าง ๆ เลยกลายเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนไม่สบายใจอย่างแรง หลังทิศทางตลาดหุ้นไทยส่อไปในทางขมุกขมัวมากขึ้นนะจะบอกให้

ขนาดหุ้นโรงแรมตัวเต็งอย่าง AWC ซึ่งหลายคนมองว่า มาแน่! แต่กลับโดนขายออกมาตลอดเวลา จากช่วงต้นปีมีค่าตัวอยู่แถว 6.40 บาท แต่วานนี้กลับลงมายืนที่ระดับ 4.92 ลบไป 0.18 บาท หรือลงไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 339 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ก็เป็นเรื่องที่ถามพวกกองทุนว่า เมคเซนต์ไหม? และต้องถามใจนักเล่นว่า ปีนี้บริษัทจะเบ่งกำไรได้ตามที่คุยไหม?..อิอิอิ

เช่นเดียวกับในรายของปูนใหญ่ SCC ซึ่งตั้งลำสวยมาแต่ไกล และไต่เพดานขึ้นอย่างมั่นคง แต่วานนี้กลับโดนสาดจนราคาหุ้นลงมายืนที่ระดับ 325 บาท ลบไป 7 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 995 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าหนักใจเหลือเกิน เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นยังไม่พร้อมที่จะไปต่อ และมีโอกาสทรุดตัวลงอีก หลังบรรยากาศ “เศรษฐกิจ” และ “การเมือง” ไม่เอื้อนะจ๊ะ

ในเมื่อความวุ่นวายยังปรากฏให้เห็นเป็นระลอก BTS จึงกลายเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่โดนขายกับเขาเต็ม ๆ เพราะลำพังเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับภาครัฐ และเรื่องต่อสัญญาสัมปทานก็เป็นปัญหาหนักอึ้งอยู่แล้ว จู่ ๆ ก็โดนขายทิ้งแบบไม่ดูดำดูดี จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 7.15 บาท ลบไป 0.45 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 303 ล้านบาท ย่อมทำให้เดี๊ยนเกิดอาการแหยงขึ้นไปอีกแบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า ห่างไว้ก่อนดีกว่านะคะ

คล้ายกับกรณีของหุ้น ITC ก็กลายเป็นหุ้นที่ทำให้ผู้คนผิดหวังซ้ำซาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้กำลังไต่เพดานสูงขึ้นอย่างช้า ๆ แต่วานนี้กลับโดนสาดตูมเดียว ราคาหุ้นก็เซถลาลงมาปิดที่ 21.50 บาท ลบไป 1.90 บาท หรือลงไป 8.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 164 ล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ลูกอีช่างเผือกสงสัยว่า มีขาใหญ่ลากหุ้นเพื่อพาไปออกของ ขืนเป็นแบบนี้บ่อย ๆ..มันทำให้หุ้นหมดราคาลงทุกวันนะตัวเอง

ปิดท้ายขอไปที่หุ้น OTO เพื่อชี้ให้เห็นการทรุดตัวฮวบฮาบลงมาปิดที่ระดับ 16.50 บาท ลบไป 7.10 บาท หรือลงไปติดฟลอร์ ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 622 ล้านบาท มันกลายเป็นช็อตทำให้แมงเม่าตาค้างกันเป็นแถว เพราะตอนเช้าหุ้นเพิ่งขยับตัวขึ้นไปทำไฮที่ระดับ 24.40 บาท พอตกบ่ายกลับโดนรินหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน จนกลายเป็นหนังคนละม้วนแบบนี้ เดี๊ยนเลยสงสัยว่า ต้องมีการแตกแถวแน่ ๆ หุ้นถึงเละเทะได้ขนาดนี้เจ้าค่ะ

Back to top button