เรื่องประกันสังคมที่หลายคนไม่เคยรู้

วันที่ 24 ธันวาคม 2566 ได้มีการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมในสัดส่วนลูกจ้างและนายจ้างของคณะกรรมการไตรภาคีกองทุนประกันสังคมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย


วันที่ 24 ธันวาคม 2566 ได้มีการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมในสัดส่วนลูกจ้างและนายจ้างของคณะกรรมการไตรภาคีกองทุนประกันสังคมเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย ที่ผู้ประกันตนจะมีสิทธิ์เลือกตั้งผู้แทนของตนโดยตรงเป็นครั้งแรกนับจากที่เรามีกองทุนประกันสังคมมา 33 ปี นับจากปี 2533

ขณะที่ท่านผู้อ่านได้อ่านบทความนี้ คงเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวของการเลือกตั้ง และหลายท่านอาจทราบผลการเลือกตั้งแล้ว

แต่ประเด็นเรื่องประชาธิปไตยทางสังคมซึ่งสมาชิกคาดหวังจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากตัวแทนที่ได้รับเลือกเข้าไปนี้ไม่แข็งแกร่งเพียงพอในการต่อต้านอำนาจรัฐในคณะกรรมการไตรภาคี  ประเด็นที่เป็นปัญหาคั่งค้างของบรรดาลูกจ้างที่เป็นสมาชิกประกันสังคมซึ่งถูกบังคับด้วยกฎหมายที่เรียกว่าเป็นการบังคับให้ลูกจ้างของบริษัทที่มีจำนวนเกิน 15 คน ต้องถูกหักเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเดือนละ 5% ของรายได้ และนายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบในจำนวนที่เท่ากันด้วย ในขณะที่หน่วยงานรัฐโดยกระทรวงการคลังจะจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเพียง 1% เรียกว่าสูตร 5-5-1 ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมต่อนายจ้างและลูกจ้าง

ที่ถือว่าไม่เป็นธรรมนั้นเพราะเจตนารมณ์ครั้งแรกสมัยรัฐบาลชาติชาย ชุณหะวัณ ได้ใช้สูตรจ่ายเงินสมทบแบบ 3-3-3 แต่ในปี 2540 รัฐบาลชวน หลีกภัย ได้แอบสั่งการให้เปลี่ยนสูตรเป็น 5-5-1 ที่ใช้มาจนถึงปัจจุบันโดยใช้อำนาจรัฐเข้ามาบริหารกองทุนประกันสังคมโดยผ่านตัวแทนของรัฐบาลในคณะกรรมการไตรภาคี ซึ่งบางครั้งจะเห็นได้ว่ามีการนำกองทุนประกันสังคมเข้าไปโอบอุ้มองค์กรเอกชน โดยที่ผลตอบแทนไม่คุ้มความเสี่ยง เช่น การเข้าถือหุ้นในไทยธนาคารซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นCIMBT (ของมาเลเซีย) โดยที่ตัวแทนฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าไปนั้นทำตัวเป็นขุนนางใหม่ที่ไม่ได้ยืนหยัดรักษาผลประโยชน์ของนายจ้างและลูกจ้างเท่าที่ควร

สูตรเรียกเก็บเงินสมทบ 5-5-1 นั้นยังคงใช้มาถึงปัจจุบันถึงแม้จะมีการดัดแปลงวิธีการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนแบบใหม่ โดยลูกจ้างที่ได้รับเงินเดือนสูง ๆ จะถูกเรียกเก็บเงินไม่เกินเดือนละ 760 บาท ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมกับลูกจ้างที่เงินเดือนต่ำแต่ถูกเรียกเก็บเงินเต็มอัตรา 5% และไม่เป็นธรรมกับนายจ้างด้วยเพราะนายจ้างไม่ได้รับผลประโยชน์กลับคืนมาเลย เหมือนเงินเสียภาษีแบบให้เปล่า โดยที่ฝ่ายรัฐบาลจ่ายเงินสมทบเพียงแค่ 1%

ความไม่เป็นธรรมข้อนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกในยุคที่ตัวแทนนายจ้างและลูกจ้างมาจากการเลือกตั้งของสมาชิกโดยตรง โดยหวังว่าจะมีการเสนอให้กลับไปใช้สูตรจ่ายเงินสมทบแบบ 3-3-3 ตามเจตนารมณ์เดิมของกฎหมายประกันสังคมปี 2533 ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องของเงินกองทุนดีขึ้น

นอกเหนือจากการปรับปรุงสูตรจ่ายเงินสมทบ คณะกรรมการไตรภาคีชุดใหม่นี้น่าจะทบทวนเรื่องเงินลงทุนของกองทุนที่จมอยู่ในบริษัทเอกชนต่าง ๆ ที่ได้รับผลตอบแทนต่ำมาก ๆ เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่อาจจะได้รับ  และยังมีประเด็นเล็ก ๆ น้อยอีกมากมายที่ควรต้องแก้ไขซึ่งเป็นรายละเอียดที่คณะกรรมการไตรภาคียุคใหม่ต้องเข้าไปกำกับดูแลต่อจากปัญหาสองประเด็นหลักที่กล่าวมา

หวังใจว่าคณะกรรมการชุดใหม่จะช่วยสร้างปรากฏการณ์ด้านบวกให้กับกองทุนประกันสังคม

Back to top button