AGE เริ่มข้ามสายพันธุ์.!?

ช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว เห็นการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ AGE ที่ว่าด้วยเรื่องการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ดูผ่าน ๆ เหมือนไม่มีอะไรนะ แต่พอดูอีกทีกลับน่าสนใจ


ช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว เห็นการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ที่ว่าด้วยเรื่องการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ ดูผ่าน ๆ เหมือนไม่มีอะไรนะ แต่พอดูอีกทีกลับน่าสนใจ เป็นการเปิดหน้าใหม่ของ AGE ก็ว่าได้..!?

เนื่องจากการตั้ง 2 บริษัทย่อยใหม่ครั้งนี้ มีภารกิจสำคัญในการสร้างการเติบโตจากเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งกำลังโตวันโตคืนอยู่ในขณะนี้

ด้วยการส่งบริษัทลูกที่ชื่อ บริษัท เอจีอี เวนเจอร์ จำกัด (เดิมชื่อบริษัท เอจีอี ลิสซิ่ง จำกัด และเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ จากเดิมแค่ทำธุรกิจลีสซิ่ง เพิ่มเป็นธุรกิจสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่และรถไฟฟ้า) ไปจับไม้จับมือกับกลุ่มออโต้ แกลเลอรี่ กรุ๊ป จัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด เพื่อทำธุรกิจศูนย์จำหน่ายรถยนต์ ทั้งรถยนต์สันดาป และรถยนต์ไฟฟ้า มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท

พร้อมทั้งจัดตั้งบริษัท เอจีอี อีวี พลัส จำกัด มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท เพื่อทำธุรกิจให้เช่ารถไฟฟ้า รองรับเทรนด์รถไฟฟ้าที่มีโอกาสเติบโตได้สูง

งั้นถ้าจะบอกว่า AGE กำลังข้ามสายพันธุ์ หรือแหกกรอบธุรกิจ หรือใช้ภาษาสวยหรูหน่อยว่า ไดเวอซิไฟธุรกิจไปยังธุรกิจใหม่ ๆ ก็คงไม่ผิดน่ะสิ..!! เพราะจะทำให้ภาพจำของ AGE เปลี๊ยนไป๋..!!

จากเดิมโตมาจากธุรกิจเทรดดิ้งถ่านหิน ขายถ่านหินให้กับโรงปูน โรงไฟฟ้า และโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศเป็นหลัก และมีบริษัทลูกที่ชื่อ บริษัท เอเชีย ไบโอแมส จำกัด (มหาชน) หรือ ABM ทำธุรกิจจัดหาและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวมวลหลากหลายประเภท เช่น กะลาปาล์ม ไม้สักและส่วนอื่น ๆ ของไม้ ขี้กบ ขี้เลื้อย ฝุ่นไม้ และชีวมวลอัดแท่ง (Biomass pellet) เป็นต้น

ขณะที่ การขายถ่านหินนั้น มีเรือบรรทุกถ่านหินไปส่งให้กับลูกค้า ส่วนเที่ยวขากลับเป็นเรือเปล่า ก็สบช่องขยายสู่ธุรกิจโลจิสติกส์ให้บริการทางน้ำ ก่อนที่จะขยายมาให้บริการทางบก บริการท่าเรือ และคลังสินค้า โดยให้บริการขนส่งสินค้าเกษตร ปุ๋ย แร่เหล็ก วัสดุก่อสร้าง กำมะถัน ทรายแก้ว กระดาษ ไม้สับ กะลาปาล์ม เป็นต้น

ไม่หมดเท่านั้น ยังขยายไปสู่ธุรกิจพลังงาน เข้าลงทุนในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) รวมถึงการเข้าไปลงทุนในบริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ในสัดส่วน 23.92% ซึ่งทำธุรกิจพลังงานทดแทน และขายแผงโซลาร์เซลล์อีกด้วย

ล่าสุดก็ขยับมาทำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์…

ส่งผลให้โครงสร้างธุรกิจของ AGE มีความหลากหลายขึ้น จากเดิมมีแค่ 2 ขาหลัก คือ ธุรกิจถ่านหินและธุรกิจขายเชื้อเพลิงชีวมวล ก็เพิ่มเป็น 4 ขาด้วยกัน ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน, ธุรกิจโลจิสติกส์, ธุรกิจพลังงานยั่งยืน และธุรกิจ Diversified Investments

ถ้าสังเกตจะเห็นว่าในช่วง 4-5 ปีมานี้ AGE มีความเพียรพยายามล้างคราบเขม่าถ่านหินอย่างต่อเนื่องนะเนี่ย..!!

ก็คงทำให้ผลประกอบการ ซึ่งเดิมสวิงริงโก้ตามราคาถ่านหินโลก…เห็นได้ชัดจากงบปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ราคาถ่านหินโลกพุ่งทะลุ 400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ทำสถิติสูงสุดใหม่ เป็นผลพวงจากภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้กำไรของ AGE จากเดิมแค่หลักร้อยล้านบาท กระโดดไปเป็น 1,248 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ทำได้ 638 ล้านบาท

พอมาปี 2566 ปริมาณและราคาขายถ่านหินปรับตัวลดลง เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ก็ทำให้กำไรวูบหายไปเหลือแค่ 285 ล้านบาทเท่านั้น

แต่ต่อไปงบของ AGE จะมีความเสถียรภาพมากขึ้น (มั้ง)..!?

แม้ไม่เห็นการเติบโตที่หวือหวา แต่จะเห็นการเติบโตด้วยฐานที่มั่นคงแทน…

…มันดีกว่าไม่ใช่เหรอ..??

…อิ อิ อิ…

Back to top button