ปลุกหุ้นรอบใหม่

หากมิตรรักแฟนเพลงติดตามข้อคิดในการลงทุนของ “โมนิก้า” มาตลอดจะเห็นว่า เดี๊ยนมีมุมมองต่อการลงทุนด้านบวกเป็นประจำ


หากมิตรรักแฟนเพลงติดตามข้อคิดในการลงทุนของ “โมนิก้า” มาตลอดจะเห็นว่า เดี๊ยนมีมุมมองต่อการลงทุนด้านบวกเป็นประจำ แต่ในขณะเดียวกันก็จะหยิบยกสถานการณ์เฉพาะหน้ามาเม้าท์ เพื่อกระตุกความคิดของนักลงทุนให้รู้ว่า สถานการณ์ตอนนี้มีอะไรที่ไม่น่าไว้ใจเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในการลงทุนรอบใหม่ เพราะปัจจัยบวกใหม่ ๆ ไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักน่ะซี

ที่สำคัญคือ แรงขายจาก “ต่างชาติ” ยังไม่ซาลงแต่อย่างใด ขณะเดียวกันยังเจอโรบอทโขยกซ้ำเป็นช่วง ๆ “โมนิก้า” ถึงมองการถีบตัวขึ้นแรงในแต่ละครั้ง มันมีกรอบการวิ่งที่ค่อนข้างชัดเจน และการที่หุ้นยืนปิดในระดับ 1,384.51 จุด บวกไป 4.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.03 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเรื่องปกติที่พวกขาประจำรู้อยู่เต็มอก และไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรให้ยืดเยื้อ เพราะประเด็นที่นำมาบิ้วอารมณ์ก็ยังเป็นเรื่องลอย ๆ พะย่ะค่ะ

ประเด็นดังกล่าวนำไปสู่เรื่องราวที่ว่า เศรษฐกิจไทยตกท้องช้างมาร่วมครึ่งปี (นับตั้งแต่รัฐบาล “เสี่ยนิด” เข้ามาบริหารงาน) และยังไม่มีวี่แววที่จะฟื้นตัวขึ้นมาได้ในเร็ววัน มันเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักลงทุนสถาบันต้องเล่นสั้น ๆ เพราะไม่รู้ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีจริงไหม? และการลดดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นตอนไหน? หรือแม้กระทั่งผลงานไตรมาส 1 ของบริษัทจดทะเบียนจะออกมาแบบไหน? ล้วนเป็นเรื่องที่ต้องตามดูกันต่อไปไงล่ะคะ

โดยเฉพาะการดีดกลับของหุ้น IVL ท่ามกลางสถานการณ์ปิโตรเคมียังเป็นขาลง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับความเป็นจริงมาก ๆ และยังหาเหตุผลที่ดีมาซัพพอร์ตไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็รู้สึกดีใจที่หุ้นกลับทิศจากขาลงมาเป็นฟื้นตัวเสียที และการยืนปิดที่ระดับ 24.70 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาท น่าจะมีความหมายสำหรับคนที่เพิ่งซื้อหุ้นวานนี้นะจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ VGI เด้งขึ้นอย่างร้อนแรงในรอบ 2 เดือนที่เป็นขาลง ย่อมเป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับคนที่ถนัดเล่นสั้น ๆ และชอบลุ้นให้หุ้นไปต่อยาว ๆ หลังราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.61 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 11.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 878 ล้านบาท แต่สำหรับคนที่เฝ้าดูห่าง ๆ อย่างอีฉัน ถือเป็นเรื่องที่รอพิสูจน์ความแข็งแกร่งของแรงซื้อ เพราะหุ้นตัวนี้ชอบทำตัวเป็น “นกกระจอก ยังไม่ทันกินน้ำ” เจ้าค่ะ

ส่วนของแทร่อย่างหุ้น TOP ถือเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ต้องซูฮกในความแข็งของราคาหุ้น แม้ตลาดหุ้นจะผันผวนมากขนาดไหน ราคาหุ้นก็ยังบินสูงกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ เดี๊ยนเลยไม่ติดใจที่เห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 57.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 385 ล้านบาท เพราะตัวเลขผลการดำเนินงานยังไปได้สวย แถมนักเล่นยังเชื่อว่า ราคาหุ้นยังมีแก๊ปให้วิ่งอีกเพียบน่ะซี

ตรงกันข้ามกับในรายของพ่อดอกมะลิ JAS พยายามเซตตัวเพื่อขึ้นใหม่ให้เห็นเป็นระลอก แต่ก็ไปไม่ได้เหมือนที่หวังสักที “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 1.98 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96 ล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณเรียกระดมพลเหมือนเที่ยวก่อน ๆ ซึ่งตอนนั้นเล่นกันในกรอบ 1.90-2.20 บาทเป็นส่วนใหญ่ เลยเดาว่า เที่ยวนี้ก็คงไม่ต่างกันจ้า

สำหรับรายที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้านอย่างหุ้น XO ถือเป็นช็อตที่เดี๊ยนชอบเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เพราะในมุมของการเล่นแต่ละครั้งจะชัดเจนอยู่ในตัว โดยครั้งไหนที่เริ่มขึ้น มักวิ่งขึ้นยาว แต่ครั้งไหนที่แกว่งตัวออกด้านข้าง มักกินเวลาหลายเดือนเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 27 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 217 ล้านบาท น่าตามไปดูไหม? เพราะเที่ยวก่อนก็จบรอบแถวนี้นะจ๊ะ

อีกรายที่เห็นถึงความพยายามดีดกลับ แต่ก็ไปไม่สุดหมือนที่หวังสักที จนสุดท้ายลงมาทำโลว์ใหม่เรื่อย ๆ “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่หุ้น BE8 เป็นรายถัดมา เพราะการบวกต่อเนื่องแบบเบา ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 27.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 5.83% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 74 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า เขากำลังจะกลับมา! ส่วนจะจริงเท็จประการใด ก็ต้องดูกันต่อไปนะนายจ๋า!

Back to top button