BCP สปส.เล่นอะไร.!?

งงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งบ้านทั้งเมือง...จู่ ๆ เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ก็มีรายงานการซื้อและขายหุ้น BCP ของ สปส. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2..!!


งงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งบ้านทั้งเมือง…จู่ ๆ เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน ก็มีรายงานการซื้อและขายหุ้นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2..!!

โดยข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มี.ค. 2567 สำนักงานประกันสังคมได้ทำรายการซื้อหุ้น BCP จำนวน 471,400 หุ้น คิดเป็น 0.0342% ที่ราคาหุ้นละ 44.095 บาท มูลค่า 20.78 ล้านบาท โดยทำรายการผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 206.56 ล้านหุ้น คิดเป็น 15.002% จากเดิมถือหุ้นจำนวน 206.09 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.967%

แต่ให้หลังมาอีก 3 วัน (1 วันทำการ) หรือในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. 2567 สำนักงานประกันสังคมก็ได้ทำรายการขายหุ้น BCP ออกมา 1,524,100 หุ้น คิดเป็น 0.1106%…น่าเสียดายที่รอบนี้ไม่ยอมแจ้งราคาที่ขายแฮะ โดยทำรายการผ่าน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ส่งผลให้เหลือถือหุ้น 205.04 ล้านหุ้น คิดเป็น 14.891%

ถ้าไปดูราคาหุ้น BCP ในวันจันทร์ที่ 18 มี.ค. ซึ่งเปิดตลาดที่ 44.50 บาท ระหว่างวันปรับขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 44.50 บาท และลงไปต่ำสุดที่ 43.25 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ 43.50 บาท…สมมตินะสมมติว่า สำนักงานประกันสังคมขายที่ราคาสูงสุด 44.50 บาท ก็จะรับทรัพย์เข้ากระเป๋าไปราว 67.82 ล้านบาท ส่วนถ้าขายที่ราคาต่ำสุด 43.25 บาท จะรับทรัพย์เข้ากระเป๋า 65.91 ล้านบาท

เอาเป็นว่า ไม่ว่าจะขายที่ราคาเท่าใด ก็น่าจะมีกำไรทั้งน้านนนน…เชื่อหัวไอ้เรืองสิ

แต่จากปรากฏการณ์เพิ่งซื้อหุ้นไปหยก ๆ แล้วขายในอีก 3 วันถัดมา ก็ทำให้ถูกตั้งคำถามว่า สำนักงานประกันสังคมเล่นแง่แปรธาตุอะไรป๊ะเนี่ย..???

ก็แหม๊…ช่วงนี้มันดันมีข่าวลบที่เกี่ยวกับสำนักงานประกันสังคมว่อนโซเซียลฯ เสียด้วย…ไหนจะลือกันว่าสำนักงานประกันสังคมถังแตกเอย..? กองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลายในอีก 30 ปีข้างหน้าเอย..? และเป็นที่มาของคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) มีความเห็นให้ยืดอายุกองทุน ด้วยการขยายเพดานการจัดเก็บเงินสมทบเข้ากองทุนเพิ่มขึ้น จากเดิมเพดานอยู่ที่ 15,000 บาท จะขยายไปถึง 20,000 บาท รวมถึงการขยายอายุการเกษียณ ที่เดิมอยู่ที่ 55 ปี อาจเพิ่มเป็น 60 ปี…ไม่หมดแค่นั้น ยังมีเงินที่รัฐค้างสมทบจ่าย 80,000 ล้านบาทอีก..??

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ อิฉันไม่ได้ใส่ร้ายสำนักงานประกันสังคมนะ แต่เป็นสิ่งที่ชาวโซเซียลฯ เค้าวิพากษ์วิจารณ์กันให้แซ่ด…ซึ่งจริงเท็จประการใด..?? ไม่รู้ ๆ ๆ ๆ

ครั้นพอมีการขายหุ้น BCP ล็อตใหญ่ออกมา ยิ่งทำให้จินตนาการไปเลยเถิดว่า สิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันต้องมีมูลแหง ๆ..??

เพราะถ้าไปส่องปัจจัยพื้นฐานของ BCP ก็ไม่มีอะไรเสียหาย…หลังจากจบภารกิจควบรวมกับบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO ก็ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับบางจาก ทั้งตัวธุรกิจโรงกลั่นที่กำลังการผลิตเพิ่มมาเป็น 190,000 บาร์เรลต่อวัน (จากกำลังกลั่นบางจากเฉลี่ยอยู่ที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน ส่วน ESSO กำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 บาร์เรลต่อวัน) ในขณะที่ธุรกิจค้าปลีก จำนวนปั๊มน้ำมันก็เพิ่มเกือบเท่าตัว มาอยู่ที่ 2,120 แห่ง (ปั๊มน้ำมันบางจาก 1,300 แห่ง และปั๊มน้ำมันเอสโซ่ 820 แห่ง)

สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ ต่างก็ฟันธงว่า หลังจากนี้บางจากจะเติบโตแบบก้าวกระโดดนะออเจ้า..!!

ก็ไม่มีเหตุผลให้สำนักงานประกันสังคมต้องตัดขายหุ้น BCP นะเนี่ย..? ทั้ง ๆ ที่เพิ่งซื้อไปหยก ๆ เมื่อ 3 วันก่อน…มันแปลกป๊ะล่ะ

จะว่าเล่นเดย์เทรดหรือเก็งกำไรระยะสั้น ก็ไม่น่าจะใช่แนวทางในการลงทุนของสำนักงานประกันสังคม…ว่ามั้ย..???

เอ๊ะ…หรือสำนักงานประกันสังคมจะร้อนเงิน…จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ในช่วงนี้…อันนี้ก็ไม่รู้สินะ

แต่ถ้าข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น สำนักงานประกันสังคมเอาหัวเป็นประกันว่า ไม่จริ๊งไม่จริง…คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงไปมากโข แล้วอยากจะชี้แจงแถลงไข ก็บอกกล่าวกันได้นะ ยินดีเป็นสื่อกลางให้…

เรื่องนี้ไม่ควรปล่อยผ่านนะคะ ไม่งั้นนักลงทุนและผู้ประกันตน (เจ้าของเงินที่แท้จริง) จะหมดศรัทธาเอาได้…เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

…อิ อิ อิ…

Back to top button