BCP หุ้นซ่อนมูลค่า.!?

ในช่วงที่ผ่านมา อาจได้เห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP จากก่อนหน้านี้ที่ราคาลงไปเยอะ


ในช่วงที่ผ่านมา อาจได้เห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP จากก่อนหน้านี้ที่ราคาลงไปเยอะ แต่ถ้าเทียบกับราคาน้ำมันดิบ WTI นับตั้งแต่ต้นปี 2567 ถึงปัจจุบัน ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว 14-15% ในขณะที่ราคาหุ้น BCP ปรับขึ้นมาแค่ 7% ซึ่งยังไม่สอดคล้องกันเท่าไหร่..??

ที่สำคัญ บางจากปีนี้ไม่เหมือนบางจากปีก่อนแล้วนะ กำลังการกลั่นในปีนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จากเดิมกำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน ก็เพิ่มมาเป็น 190,000 บาร์เรลต่อวัน ดังนั้นการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบน่าจะทำให้ BCP ได้ประโยชน์มากกว่านี้นะ…

ประกอบกับหลังจากได้บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อให้ดูบ้าน ๆ เป็น บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC) มาอยู่ภายใต้ชายคา ก็ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับบางจากมากขึ้น

เพราะนอกจากกำลังการกลั่นจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวแล้ว ในแง่ของธุรกิจค้าปลีก จำนวนปั๊มน้ำมันก็เพิ่มเกือบเท่าตัวเช่นกัน จากเดิมมีปั๊มน้ำมันบางจากอยู่แค่ 1,300 แห่ง ได้ปั๊มน้ำมันเอสโซ่มาอีก 820 แห่ง รวมเป็น 2,120 แห่ง จะช่วยหนุนให้ธุรกิจนอนออยล์ของบางจาก โดยเฉพาะร้านกาแฟอินทนิลมีโอกาสเติบโตมากขึ้น

ขณะที่ ความเคลื่อนไหวล่าสุด แจ้งข่าวเรื่องบริษัทลูกที่ชื่อ OKEA ASA (BCP ถือหุ้น 45.58%) ร่วมกับผู้ร่วมลงทุนเดินหน้าพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม Brasse ซึ่งคาดว่ามีปริมาณปิโตรเลียมสำรองจำนวน 24 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ (MBOE) โดยสัดส่วนของ OKEA เท่ากับ 39.2788%

โดยโครงการพัฒนาแหล่ง Brasse ตั้งอยู่ในทะเลนอร์เวย์ เป็นส่วนเชื่อมต่อและตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนใต้ของแหล่งปิโตรเลียม Brage ซึ่ง OKEA เป็นผู้ดำเนินการอยู่เดิม (Operator) และ OKEA จะยังคงเป็น Operator ต่อในทั้ง 2 ใบอนุญาต

ที่จริงก่อนหน้านี้ BCP ถูกตั้งคำถามเยอะกับการหันมาบุกต้นน้ำมากขึ้น ผ่าน OKEA ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในแหล่ง Draugen Field และ Gjøa Field ในประเทศนอร์เวย์ ว่าจะยังไง?? จะซัคเซสหรือเปล่า..??

แต่ถ้าดูจากข้อมูลที่ระบุไว้ จากความคืบหน้าในครั้งนี้ ส่งผลให้ปริมาณปิโตรเลียมสำรอง (2P) ตามสัดส่วนของ OKEA เพิ่มขึ้นจากประมาณ 83 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เป็นกว่า 92 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ โดยคาดการณ์จะเริ่มผลิตได้ช่วงครึ่งแรกของปี 2570 และปริมาณการผลิตจากแหล่งนี้สุทธิตามสัดส่วนจะได้ระดับ 10,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน (BOED) ภายในปีแรกของการผลิต

โอเค…แม้ต้องรอปี 2570 ถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่อย่างน้อย ๆ ก็เป็นเสบียงคลังแสงตุนไว้แล้ว เพื่อรอรับรู้รายได้ในอนาคต ซึ่งน่าจะช่วยลดความผันผวนของงบ BCP ได้บ้างไม่มากก็น้อย

อย่าลืมว่าจุดอ่อนของ BCP ในช่วงหลายปีที่ผ่านมางบค่อนข้างสวิงริงโก้ บางปีเห็นกำไรหลายหมื่นล้านบาท พอมาอีกปีพลิกขาดทุนซะงั้น อย่างธุรกิจค้าปลีก ก็จะขึ้นอยู่กับค่าการตลาด ซึ่งที่ผ่านมาจะถูกกดให้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่เสมอ ๆ ทำให้มาร์จิ้นต่ำ ในขณะที่ธุรกิจโรงกลั่นก็จะผันแปรตามซีซัน หรือดีมานด์การใช้น้ำมัน…

ดังนั้น ถ้ากลางน้ำและปลายน้ำไม่ดี แต่หากต้นน้ำดี มีรายได้ที่มั่นคง ก็พอจะช่วยลดความผันผวนได้

ถ้าไปดูในแง่ของตัวหุ้น ก็น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายกันที่ P/E แค่ 4.73 เท่า ต่ำกว่า P/E กลุ่มพลังงานซึ่งอยู่ที่ 12.69 เท่า และ P/E ตลาดโดยรวมอยู่ที่ 18.41 เท่า มิหนำซ้ำราคาหุ้นปัจจุบันยังต่ำกว่าบุ๊กแวลู หรือมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น ซึ่งอยู่ที่ 52.37 บาท อีกนะ

ด้านอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนก็ไม่ขี้เหร่นะ ช่วง 2 ปีมานี้ มีดิวิเดนด์ยีลด์สูงถึง 5-6% ต่อปี ล่าสุดยีลด์อยู่ที่ 4.40%

จะเห็นว่าหุ้น BCP ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการนำเงินไปฝากแบงก์ หรือลงทุนในพันธบัตรเห็น ๆ…

จึงเหมาะที่จะถือยาวเพื่อรับเงินปันผล…เป็นอย่างยิ่ง..!!

แต่ถ้าใครจะเห็นต่างจากนี้…ก็ไม่ว่ากัน

นานาจิตตัง..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button