
SKY โตตามภาคการท่องเที่ยว
การเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากจะส่งผลดีต่อกลุ่มสายการบิน สนามบิน โรงแรม ค้าปลีก ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า
คุณค่าบริษัท
การเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากจะส่งผลดีต่อกลุ่มสายการบิน สนามบิน โรงแรม ค้าปลีก ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้าแล้ว อีกหนึ่งบริษัทที่จะได้ประโยชน์คงหนีไม่พ้นบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับสนามบิน ครอบคลุมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยกล้องวงจรปิดในท่าอากาศยาน ที่ขยายไปยังการพัฒนาเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า เพื่อควบคุมการตรวจคนเข้าเมือง การให้บริการรถเข็นกระเป๋า บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) ธุรกิจให้บริการด้านบริหารโครงการการติดตั้งการดูแลและบำรุงรักษา และให้บริการโซลูชันรักษาความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์ม เป็นต้น
จากการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งตั้งเป้าหมายจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยที่ 40 ล้านคน นั่นหมายความว่าธุรกิจการบินที่อยู่ภายใต้การบริหารของ SKY ICT จะมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย จากโครงการระบบเช็กอินและโหลดกระเป๋าอัตโนมัติที่ใช้ร่วมกันได้ในหลายสายการบิน (CUPPS : Common Use Passenger Processing System) และโครงการการให้บริการระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS)
โดยที่ผ่านมา SKY ได้รับงานจากกรมท่าอากาศยาน (DOA) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ในการติดตั้งระบบ CUPPS ครอบคลุม 13 สนามบินทั่วประเทศ มูลค่าโครงการรวมกว่า 18,000 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในช่วงปี 2573
ขณะที่ ปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้ (Backlog) รวมประมาณ 23,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 6 ปีข้างหน้า ซึ่งในปี 2568 จะรับรู้รายได้ประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท เริ่มเห็นการรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/2568 บางส่วน
ส่วนผลการดำเนินงานปี 2567 รายงานกำไรสุทธิ 481 ล้านบาท ลดลง 10.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 537 ล้านบาท และมีรายได้รวม 6,744 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,145 ล้านบาท
ด้าน บล.เมย์แบงก์ ระบุว่า SKY ชนะประมูลโครงการมูลค่า 4.7 พันล้านบาท ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2568 เทียบกับมูลค่าเพียง 729 ล้านบาท สำหรับทั้งปี 2567 โดยธุรกิจ SI มี Backlog สะสมอยู่ที่ 5.5 พันล้านบาท ซึ่งมากกว่า 2 พันล้านบาท จะรับรู้รายได้ในปี 2568 ซึ่งเท่ากับว่าประมาณ 48% ของรายได้ที่คาดไว้ที่ 4.2 พันล้านบาท
ส่งผลให้คาดว่ากำไรหลักในไตรมาส 1/2568 จะเติบโตแข็งแกร่งที่ 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 22% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้กำไรในไตรมาส 2/2568 น่าจะเติบโตมากกว่าไตรมาส 1/2568 อย่างมีนัยสำคัญ โดยคงประมาณการกำไรหลักปี 2568 เติบโต 55% และรายได้เติบโต 58% โดยมีธุรกิจ SI เป็นตัวขับเคลื่อนของการเติบโตในปีนี้
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น SKY ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 21.72 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 16.44 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 2.05 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.12 เท่า