ควรเด้งได้แล้ว

หลังจากตลาดหุ้นไทย “ลงแล้ว ลงอีก” จนอีฉันรู้สึกเซ็งเป็นเวลานาน ก็น่าจะถึงเวลาเด้งกลับยาว ๆ เสียที เพราะเมื่อดูจากค่า PE ของตลาดหุ้นไทยที่ระดับ 15 เท่า ควบคู่กับ Yield ที่ระดับ 4% ก็ทำให้มั่นใจว่า ดัชนีที่บริเวณ 1,150 จุดเหมาะต่อการทยอยสะสมอย่างไม่ต้องสงสัย


หลังจากตลาดหุ้นไทย “ลงแล้ว ลงอีก” จนอีฉันรู้สึกเซ็งเป็นเวลานาน ก็น่าจะถึงเวลาเด้งกลับยาว ๆ เสียที เพราะเมื่อดูจากค่า PE ของตลาดหุ้นไทยที่ระดับ 15 เท่า ควบคู่กับ Yield ที่ระดับ 4% ก็ทำให้มั่นใจว่า ดัชนีที่บริเวณ 1,150 จุดเหมาะต่อการทยอยสะสมอย่างไม่ต้องสงสัย ผนวกกับผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดหุ้นพยายามหาข่าวดีใหม่ ๆ มาสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนแบบนี้..ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วมั้ง!

ประกอบกับรายย่อยยังเดินหน้าซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง “โมนิก้า” เลยมองการทรุดตัวหนักของดัชนีเกิดจากหุ้นบางตัวถูกลดพอร์ต จึงอยากให้นักลงทุนประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1,132.02 จุด ลบไป 17.16 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.96 หมื่นล้านบาท เสี่ยงขนาดไหน? เพราะสิ่งที่ทุกคนรับรู้ก็คือ ครึ่งหนึ่งมาจากการร่วงของหุ้น DELTA จึงทำให้บรรยากาศตลาดหุ้นไทยดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่?

ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่การเทขายของ “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” จะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน? เพราะข้อมูลทางสถิติบอกให้ทุกคนรู้ว่า การถือครองหุ้นของนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวต่ำสุดเท่าที่เคยมีมาในรอบหลายปี จึงเชื่อว่า ในไม่ช้านักลงทุนจะเพลาขายหุ้นในเร็ว ๆ นี้  เพราะมันไม่มีเหตุที่ทำให้ต้องทิ้งหุ้นต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกำหนดนะจะบอกให้

เหมือนกับการประคองตัวของหุ้น BTS  ร่วมสัปดาห์ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 4.60 บาท บวกไป 0.14  บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 443 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของหุ้นรอบใหม่ จึงต้องติดตามดูต่อไปว่า การขึ้นต่อจากนี้จะมีโอกาสวิ่งขึ้นไปถึง 5 บาทไหม? เพราะก่อนหน้านี้เคยวิ่งขึ้นไปถึงระดับดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนจะโดนรินขายออกมาเรื่อย ๆ..จำได้บ่!

ใช่จะมีแต่เรื่องร้าย ๆ เพราะแรงซื้อที่เข้ามาในหุ้น CPF เสมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นพร้อมจะเด้งกลับไปที่บริเวณ 26.50 บาทในไม่ช้า..นักเล่นจึงต้องสวมวิญญาณเป็นชาวไล่อย่างเดียว เพราะการยืนปิดที่ระดับ 25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.29 พันล้านบาท ท่ามกลางตลาดหุ้นแดงแป๊ดแบบนี้ น่าจะมีของดีเตรียมเอาออกมาโชว์กระมัง!..งานนี้บอกได้แค่ว่า ไม่ซื้อแล้วจะเสียใจนะตัวเอง..อิอิอิ

เหมือนกับในรายของ RCL เผลอแป๊บเดียว เตรียมตัวจะขึ้นไปทดสอบ high เดิมที่ระดับ 30 บาท หลังจากสัปดาห์ที่แล้วถูกรินขายออกมาเป็นระยะ แต่วานนี้สามารถยืนปิดที่ระดับ 27 บาท บวกไป 0.75  บาท หรือขึ้นไป 2.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 106  ล้านบาท “โมนิก้า” มั่นใจว่า การเทคตัวขึ้นเที่ยวนี้จะเป็นการเปลี่ยนฐานแนวรับให้สูงกว่าเดิม หุ้นถึงแรงผิดหูผิดตาอย่างไม่น่าเชื่อ..ทราบแล้วเปลี่ยน

ส่วนในรายของ CENTEL จู่ ๆ วอลุ่มโป่งขึ้นมาผิดปกติ ทั้งที่ก่อนหน้าเหมือนจะขึ้นไม่ไหว แต่หุ้นก็ยังไต่เพดานขึ้นมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 22.50 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท(สัปดาห์ก่อนยังยืนอยู่ที่ 19.50 บาทอยู่เลย)  “โมนิก้า” ชักสงสัยว่า มีอะไรในก่อไผ่หรือเปล่า?  เดี๊ยนจึงอยากให้พวกขาลุยติดตามดูหุ้นตัวนี้ให้ดี ๆ เจ้าค่ะ

ประเด็นดังกล่าวเทียบได้กับตัวตึงอย่างหุ้น STPI  มักทำให้เดี๊ยนต้องเม้าท์ถึงทุกครั้งเมื่อเห็นหุ้นเริ่มขยับ เพราะเหมือนเป็นการสื่อให้รู้ถึงข่าวดีบางอย่างได้ก่อกำเนิดขึ้นแล้ว บรรดานกรู้จึงไล่ซื้อหุ้นกันอย่างสนุกสนาน (สัปดาห์ที่แล้วยังยืนอยู่แถว 2.50 บาทอยู่เลย) เดี๊ยนจึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 3.30 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27 ล้านบาท น่าตามไหม? เพราะเที่ยวก่อนขึ้นไปถึง 4.20 บาทนะจ๊ะ

โมนิก้าและทีมงาน

Back to top button